MTS Help Center

นาง ลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขา Cleveland และสมาชิกที่ประชุม FOMC ในเช้าวันนี้ว่า เฟดยังอยู่ในช่วงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี กรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ยนั้นขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจว่าเอื้ออำนวยหรือไม่

อย่างไรก็ดี นางเมสเตอร์ ไม่ได้ระบุว่า แนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้จะเป็นเช่นไร

และกล่าวถึงข้อมูลการจ้างงานประจำเดือน มิ.ย. ที่ออกมาสดใสว่า เป็นสัญญาณที่ดีว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มที่

ธนาคารอิตาลีวิกฤตการเงินครั้งใหม่?

- ปัจจุบันหนี้เสียของธฯาคารอิตาลีอยู่ที่ระดับ 17% (มากกว่า 3 แสนล้านปอนด์) และมากกว่าหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับระดับหนี้เสียตอนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008

- เมื่อเกิด Brexit ธนาคารในยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ธนาคารในอิตาลีได้รับผลกระทบหนักมาก

- ทั้งนี้ธนาคารอิตาลีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอัตราการเติบโตของอิตาลีในระดับต่ำมากเกือบ 0%, อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำและการทุจริตคอรัปชั่น

จับตาประชุมแบงก์ชาติอังกฤษพฤหัสบดีนี้ คาดลดดอกเบี้ย-เพิ่มวงเงิน QE รับมือผลกระทบ Brexit

ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีที่ 14 ก.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า BoE อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษได้ลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสมากกว่า 70% ที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.25% จากปัจจุบันที่ระดับ 0.5% และคาดว่าจะเพิ่มวงเงิน QE ขึ้นจากปัจจุบันที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์

หัวหน้านักยุทธ์อัตราแลกเปลี่ยนจาก Morgan Stanley คาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25%

นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงฤดูร้อนนี้ และ BoE จะทำการประเมินขั้นต้นเกี่ยวกับผลกระทบจากปัจจัย Brexit ในการประชุมครั้งนี้ และจะพิจารณาอย่างสมบูรณ์ในการประชุมเดือนส.ค.

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ BoE คัดค้านการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบตามธนาคารกลางยุโรป และญี่ปุ่น โดยวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง จากกระแสคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ในวันนี้ เนื่องจากกระแสคาดการณ์ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

นอกจากนี้ตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังเป็นอีกปัจจัยหนุนให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินเยน

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 0.3% สู่ระดับ 103.05 เยน/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าสูงสุดที่ระดับ 103.29 เยน/ดอลลาร์ อ่อนที่สุดนับตั้งแต่ 1 ก.ค.

ทั้งนี้นอกจากนโยบายทางการคลังแล้ว เหล่านักลงทุนยังคอยจับตามองนโยบายทางการเงินจากบีโอเจด้วย ซึ่งบีโอเจจะมีการประชุมในปลายเดือนนี้

น้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้

วันนี้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เหตุท่อขนส่งน้ำมันดิบรั่วในอิรัก อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนลดสถานะLong ของตนเองอย่างต่อเนื่อง

น้ำมันดิบ BRENT มีการซื้อขายที่ระดับ 46.62 เหรียญ/บาร์เรล ปรับตัวสูงขึ้น 0.78%

เหล่าเทรดเดอร์ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการที่ท่อขนส่งน้ำมันดิบของอิรักรั่ว ส่งผลให้การขนส่งน้ำมันสู่ท่าเรือทางตอนใต้ของอิรักชะงักลงไป

ทั้งนี้อิรักคาดการณ์ในเบื้องต้นว่า การส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือในภาคใต้จะลดลงสู่ระดับ 2.79 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนสิงหาคม จากระดับ 2.9ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือนกรกฎาคม