• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2559

    14 กรกฎาคม 2559 | Economic News


ธนาคารอังกฤษจะมีการประชุมในวันนี้และตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งหากปรับลดลงจริง จะนับเป็นการปรับลดลงครั้งแรกในรอบ 7 ปี

โดยก่อนหน้านี้ 2 สัปดาห์ นายมาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการบีโออี ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อหนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Brexit

ตลาดคาดว่าบีโออีจะลดดอกเบี้ยลงจากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.25% และนักเศรษฐศาสตร์จากผลการสำรวจจาก Reuters ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์หลายรายคาดการณ์ว่าบีโออีอาจกลับมาใช้มาตรการ QE อีกครั้งก็เป็นได้

ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.7% เมื่อวานนี้หลังจากที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเกือบ 2% ในวันอังคารที่ผ่านมา


ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนเริ่มลดลงไป หลังจากที่ผลักดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก โดยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร, ค่าเงินสวิสฟรัง และค่าเงินเยน

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินเยนอ่อนค่าลงกว่า 4% มากที่สุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2014 หลังพรรครัฐบาลของ นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสภา พร้อมทั้งระบุว่าจะใช้มาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% สู่ระดับ 96.25 จุด

ดัชนีราคาสินค้านำเข้าสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ปรับตัวสูงขึ้นน้อยกว่าคาด แม้ว่าราคาพลังงานจะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม โดยดัชนีราคาผู้ผลิตได้รับแรงกดดันจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและราคาสินค้าทุนที่หดตัวลง ซึ่งจะกดดันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯต่อไป

ดัชนีราคาสินค้านำเข้าประจำเดือน มิ.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1.4% ในเดือน พ.ค. ขณะที่ดัชนีราคาสินค้านำเข้าที่ไม่รวมภาคพลังงาน หดตัวลง -0.3% หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% ในเดือนก่อนหน้า

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจและการจ้างงานยังคงขยายตัวเล็กน้อยในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค.จนถึงเดือนมิ.ย. และแทบไม่พบปัจจัยบ่งชี้พัฒนาการของอัตราเงินเฟ้อเลย ขณะที่ปัจจัยบ่งชี้พัฒนาการของค่าแรงอยู่ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดเฟีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดน่าจะสามารถขึ้นได้เบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ในถ้อยแถลงเดิมของนายแพทริค ที่กล่าวไว้ในช่วงปลายเดือน พ.ค. ระบุว่า เฟดน่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ 2-3 ครั้ง ในปีนี้ บ่งชี้ว่านายแพทริค ได้ลดการคาดการณ์ดอกเบี้ยของตนเองลงไปเล็กน้อย หลังอังกฤษเลือกออกจากอียู

อย่างไรก็ดีนายแพทริค ไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุม FOMC

นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดควรใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยควรปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

นายแคปแลนยังกล่าวว่า ปัจจัยความเสี่ยงในตลาดโลกกำลังบั่นทอนความพยายามของเฟดในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลให้การใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำมีประสิทธิภาพลดลงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ท่าทีของนายแคปแลนในวันนี้ ถือว่าแตกต่างจากที่เขาเคยกล่าวในเดือนที่แล้ว ซึ่งเขาระบุว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังมีการปรับตัวเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มที่ และอัตราเงินเฟ้อกำลังเริ่มที่จะดีดตัวขึ้น

อย่างไรก็ดีนายแคปแลน ไม่มีสิทธิออกเสียงในการประชุม FOMC

ราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้หดตัวลงอย่างหนัก หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาในวันก่อนหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ออกมาเพิ่มขึ้น

สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯโดย EIA ปรับตัวลดลง -2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าที่ -2.3 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 4.6% สู่ระดับ 46.26 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com