ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ โดยปรับตัวลดลงจากช่วงเช้าเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังข้อมูลยอดการสร้างบ้านใหม่ออกมาดีกว่าคาด
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Citigroup ระบุว่า ในขณะที่ค่าเงินอื่นๆทั้งดอลลาร์ เยน และยูโร ให้ผลตอบแทนเป็นลบ หรือมีความเสี่ยงที่จะให้ผลตอบแทนเป็นลบ ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ช่วยทำให้ทองคำซึ่งให้เป็นตอบแทนเป็นศูนย์จึงดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
หัวหน้านักวิจัยจาก ETF Securities ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สดใส จะช่วยให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยได้มากขึ้น และจะกระทบต่อราคาทองคำในระยะสั้น
นักวิเคราะห์จาก RBC ระบุว่า ทองคำยังเป็นขาขึ้น จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงขึ้น และคาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,500 เหรียญในปี 2017 และ 2018 ขณะที่ในปี 2020 คาดว่าราคาจะอยู่แถวระดับ 1,300เหรียญ จากปริมาณความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นและคาดว่าจะคงเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก RBC ไม่คาดว่าเฟดจะทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2017
ด้าน นักวิเคราะห์จาก ABN Amro คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในช่วงสิ้นปี 2017 จะอยู่ที่ระดับ 1,450 เหรียญ
ในวันจันทร์ที่ผ่านมากองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม 2.37 ตัน ขณะที่เมื่อวานนี้กองทุนฯไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 965.22 ตัน