ด้านค่าเงินปอนด์ดีดกลับขึ้นมา 0.2% บริเวณ 1.3128 ปอนด์/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ร่วงลงกว่า 1.6% หลังจากที่บีโออีสร้างความเซอร์ไพรส์แก่ตลาดด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่าที่คาด
อย่างไรก็ดี การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในค่ำคืนนี้อาจหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากกระแสคาดการณ์ที่เฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงสิ้นปีนี้ หลังจากที่เฟดเลื่อนกำหนดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากกรณีที่อังกฤษเลือกลงประชามติออกจากอียู
การจ้างงานสหรัฐฯมีแนวโน้มจะขยายตัวเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคม ขณะนี้อัตราค่าจ้างมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น จึงอาจสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคและสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยในคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯจะเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีการจ้างงานที่ระดับ 180,000 ตำแหน่งในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับที่ลดลงจากการจ้างงานในเดือนมิถุนายนที่ระดับ 287,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ หากข้อมูลการจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นตามคาด ก็อาจพยุงให้อัตราเฉลี่ยการจ้างงานรายเดือนอยู่ที่ระดับ 171,500 ตำแหน่งในช่วงครึ่งปีแรก
ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่จะบอกถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ได้แก่ อัตราการว่างงาน โดยมีการคาดการณ์ว่า จะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.8% ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยรายเดือนคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากขยายตัวได้ 0.1% ในเดือนมิถุนายน และอาจส่งผลให้ค่าจ้างแรงงานเมื่อเทียบรายปีปรับตัวขึ้น 2.6%
หัวหน้านักวิเคราะห์จาก PNC Financial Services Group กล่าวว่า ตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง และเราน่าจะเห็นค่าแรงขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่การขยายตัวของค่าแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีในวันนี้ ออกมาแย่กว่าที่คาด โดยยอดคำสั่งซื้อสินค้าภาคอุตสาหกรรมในเดือนมิถุนายน จากโรงกำเนิดไฟฟ้าของยุโรป และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอีกครั้งกว่า 1% จากสัญญาณครั้งใหม่ที่ว่าอุปสงค์น้ำมันจากจีนอ่อนแอ
ราคาน้ำมันปรับตัวลงประมาณ 1% จากปริมาณการกลั่นน้ำมันที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาไปยังการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ในการนำเข้าน้ำมันของจีน ขณะที่ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้จากแรง Short-Covering
โดยน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงกว่า 1% แถวระดับ 41.50 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงประมาณ 1.15% ที่ระดับ 43.77 เหรียญ/บาร์เรล
รายงานจาก BMI Research กล่าวว่า การนำเข้าน้ำมันของจีนกำลังชะลอตัวจากระดับสูงสุดในปี 2015 และปีนี้