ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขึ้นมามากในคืนวันศุกร์ หลังจากสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงไม่มากนักเนื่องจากได้รับแรงหนุนโดยราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น ซึ่งหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.29 จุด ลดลง 14.24 จุด หรือ -0.08%
เช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในกองทุน Emerging market มากขึ้น จากผลตอบแทนพันธบัตรที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า การแสวงหาผลตอบแทนของนักลงทุนทั่วโลกนั้นส่งผลให้ มีเงินลงทุนไหลเข้ากองทุนตราสารหนี้ของกลุ่มประเทศ Emerging market มากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ และมีเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นของกลุ่มประเทศดังกล่าวเข้ามาติดต่อกันนานที่สุดในรอบ 2 ปี
ดัชนี MSCI Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% นับเป็นการปรับตัวสูงขึ่นติดต่อกันเป็นวันทำการที่ 3
นักบริหารเงิน ระบุว่า ภาพรวมค่าเงินบาทเมื่อวานนี้อ่อนตัวลงหลังจากจากการจ้างงานของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด แต่ได้รับผลประชามติออกมาหนุนซึ่งมาว่าเป็นข่าวดีช่วยให้ช่วงปิดตลาดแข็งค่าลงมาได้
นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่าง 34.85-35.10 บาท/ดอลลาร์