ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Health-Care และเทคโนโลยี ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากข้อมูลผลประกอบการที่ออกมาสดใส ขณะที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และค้าปลีก ปรับตัวลดลงกดดันไม่ให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นไปมากนัก
ทั้งนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทฯในดัชนี S&P 500 ปัจจุบันเผยผลประกอบการออกมาแล้วราว 90% โดย 77% ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,533.05 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด หรือ +0.02% ขณะที่ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,181.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในวันนี้หลังจากที่ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ชะลอตัวลงจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น และหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่หดตัวลง
ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ปรับตัวลดลง 0.2% สู่ระดับ 138.35 จุด ในเช้าวันนี้ ขณะที่ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวลดลง 0.4%
นักบริหารเงิน ระบุว่า ค่าเงินบาทแกว่งตัวในกรอบเมื่อวานนี้ ประกอบกับค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวผสมผสานเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 34.90-35.05 บาท/ดอลลาร์