ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันนี้หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นมาติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุนและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยปรับตัวสูงขึ้นราว 0.1% สู่ระดับ 95.714 จุด
นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าในระยะสั้นนั้นราคาทองคำมีทิศทางอย่างไร เนื่องจากมีความซับซ้อน ระหว่างแรงหนุนราคาทองคำจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและเฟดที่ดูจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป แต่ยังมีแรงต้านที่หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง หรือตลาดหุ้นที่อาจปรับตัวสูงขึ้น
รายงานแนวโน้มความต้องการทองคำประจำไตรมาสที่ 2/2016 โดย World Gold Council ระบุว่า ความต้องการทองคำในไตรมาสที่ 2/2016 นั้นอยู่ที่ระดับ 1,050.2 ตัน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า 15% โดยมีแรงหนุนสำคัญจากความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนที่เติบโตกับ 141%สู่ระดับ 448.4 ตัน จากระดับ 186.1 ตันในปีก่อนหน้า
ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการลงทุน ประจำ World Gold Council ระบุว่า นักลงทุนเข้ามาลงทุนทองคำส่วนหนึ่งเกิดจากผลตอบแทนที่ติดลบของตลาดพันธบัตรซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมากและความไม่แน่นอนของการเมืองระหว่างประเทศ นอกจากนี้การค้นหาคำว่า Goldใน Baidu ซึ่งเป็น Search Engine ของจีน เพิ่มสูงขึ้น 44% เมื่อเทียบรายปี ในช่วง 7 วันหลังผลการทำประชามติ Brexit และ Google Trends ระบุว่า คำค้นหาคำว่า Buy Gold พุ่งสูงขึ้น 500% ในวันที่มีการทำประชามติดังกล่าว
อย่างไรก็ดี World Gold Council ระบุเพิ่มเติมว่า ความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนเป็นความต้องการเดียวที่แข็งแกร่ง ขณะที่ความต้องการเพื่อเป็นเครื่องประดับ, เพื่อการสำรองทองคำของธนาคารกลาง และเพื่อใช้ในเทคโนโลยี ต่างอ่อนแอในไตรมาสที่ 2/2016 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า