ราคาทองคำในคืนวันศุกร์ปิดปรับตัวลงเล็กน้อยราว 0.5% โดยได้รับแรงกดดันจากการ Lock Profit ของกลุ่มนักลงทุน หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาอย่างน่าผิดหวัง และค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มระมัดระวังการปรับตัวลงของราคาทองคำที่ไม่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือ 1,350 เหรียญได้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กองทุน SPDR ขายทองคำ 11.87 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 960.45 ตัน โดยเป็นการขายออกต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วันทำการ
ผลสำรวจจาก Kitco พบว่า กลุ่มนักเก็งกำไรในตลาดกว่า 71% และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำกว่า 66% มีมุมมองว่าสัปดาห์หน้าทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น หลังจากที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอันได้แก่ ยอดค้าปลีกและดัชนี PPI ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดการณ์
นักวิเคราะห์อาวุโส จาก Price Futures Group กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และในสัปดาห์หน้าอาจเป็นปัจจัยที่กดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ในทิศทางขาลง ขณะที่อาจหนุนทองคำเป็นขาขึ้น
นักกลยุทธ์จาก LaSalle Futures Group หนึ่งในผู้มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ ระบุว่า การที่สัญญาทองคำเดือนธันวาคมยังยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 20 วันได้บริเวณ 1,345.7 เหรียญยังถือเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งหากราคาทองคำปรับตัวเหนือบริเวณดังกล่าวได้มีโอกาสจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ขณะที่ นักวิเคราะห์จาก Morrison Markets ผู้ที่มีมุมมองขาลงต่อตลาดในสัปดาห์นี้ กล่าวว่า หากราคายังปิดต่ำกว่า 1,340เหรียญ อาจกระตุ้นให้ตลาดเกิดแรงเทขาย ซึ่งจะมีเป้าหมายที่ระดับ 1,320 เหรียญ โดยเป็นระดับใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ยราย50 วัน ซึ่งหากทองคำจะกลับมามีทิศทางเชิงบวกอีกครั้ง จำเป็นต้องฟื้นตัวมายืนเหนือจุดสูงสุดเดิมในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาบริเวณ 1,374 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากที่จะทำให้ภาพระยะสั้นของทองคำในตลาดโลกกลับมามีเสถียรภาพ แต่ในสัปดาห์หน้าเชื่อว่ามีโอกาสที่ทองคำจะลงมาทดสอบ 1,320 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก Daily FX ระบุว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันอังคารนี้ที่คาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อย ซึ่งการอ่อนตัวของข้อมูลดังกล่าวอาจยิ่งกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง รวมไปทั้งลดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดต่างๆในสัปดาห์นี้ ได้แก่ นายเดนนิส ล็อกฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า, นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์, นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก และ นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก