• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2559

    15 สิงหาคม 2559 | Economic News



ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในคืนวันศุกร์สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์และตั๋วเงินคลังของสหรัฐฯ รวมทั้งราคาในตลาดหุ้นด้วย แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไดรับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นจากแรงShort Covering โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับ 95.683 จากระดับ 95.857


ขณะที่ค่าเงินยูโรในคืนวันศุกร์อยู่ระดับ 1.1163 ดอลลาร์/ยูโร โดยปรับแข็งค่าขึ้นวันพฤหัสบดีที่อยู่ที่ระดับ 1.1137 ดอลลาร์/ยูโร ด้านค่าเงินเยนกลับแข็งค่าลงมาเช่นกันที่ระดับ 101.29 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 101.91 เยน/ดอลลาร์


ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจส่วนใหญ่ออกมาไม่ค่อยดีนัก นำโดย ข้อมูลยอดค้าปลีกประจำเดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯที่แย่กว่าที่คาดการณ์แตะระดับ 0.0% จากเดิมที่ระดับ 0.8% ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.3% จากระดับ 0.9% ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการที่ชาวอเมริกาตัดลดค่าใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง จึงส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ลดน้อยลงเกี่ยวกับโอกาสที่ภาคการอุปโภคและบริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสที่ 3 นี้


ขณะที่ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลงมากที่สุดในรอบเกือบปีแตะระดับ -0.4% ในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 0.5% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมภาคอาหารและพลังงาน (Core PPI) ออกมาลดลงแตะ -0.3% จากระดับ 0.4% เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับลดค่าใช้จ่ายในภาคพลังงานและภาคบริการ รวมทั้งการชะลอการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภค และเงินเฟ้อที่ยังขยายตัวได้ช้า จึงมีโอกาสที่เฟดอาจยะงไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้ว่าตลาดแรงงานจะมีความแข็งแกร่งก็ตาม


นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นประจำเดือนสิงหาคมออกมาแย่กว่าที่คาดแตะ 90.4 แต่ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อยที่ระดับ 90.0

อย่างไรก็ดี ผู้อำนวยการนักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Naroff Economic Advisors กล่าววา สมาชิกเฟดกังวลว่าจะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจต้องชะลอไปก่อนจนกว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน และเงินเฟ้อใกล้ระดับเป้าหมายที่พวกเขากำหนด ขณะที่รายงานล่าสุดในคืนวันศุกร์ไม่ได้เกื้อหนุนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเร็วๆนี้


รายงานจาก CME Group ระบุว่า ตลาดมีมุมมองว่าเฟดมีโอกาส 12% ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ไม่ก็เดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ประกาศออกมาไม่ดีนักส่งผลให้ตลาดลดมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมลดลงเหลือเพียง 38% จากระดับ 52% ในช่วงการสำรวจก่อนหน้า


นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในปี 2017 เก็ลดลงด้วย โดยตลาดมองว่ามีโอกาส 42% ทีเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ จากระดับ 52% ขณะที่เดือนมีนาคมปีหน้าคาดมีโอกาส 47% จากระดับ 59%


อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ระบุว่า เฟดไม่เคยตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย หากการประเมินของตลาดต่ำกว่า 50%


รายงานจาก IMF เผยว่า ผู้นำจีนมีแผนจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านอุปสงค์ด้วยการหนุนการเงินและพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงอาจเห็นกลุ่มผู้กำหนดนโยบายทำการปรับโครงสร้างดังกล่าว นอกจากนี้พวกเขายังคงคาดว่าการขยายตัวของความเชื่อมั่นจะเข้าสู่ระดับปกติในช่วงที่เหลือของปีนี้


ญี่ปุ่นเผยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำไตรมาสที่ 2/2016 ในเช้าวันนี้ ออกมาแย่กว่าคาด ที่ระดับ 0.0% เมื่อเทียบรายไตรมาส (เดิม 0.5%, คาดการณ์ 0.2%) เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนที่อ่อนแอ ซึ่งยิ่งตอกย้ำเศรษฐกิจที่อ่อนแอของญี่ปุ่น ขณะที่เมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต 0.2% น้อยกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.7%


น้ำมันดิบ WIT ปิด +2.3% ที่ระดับ 44.49 เหรียญ/บาร์เรล ด้านน้ำมันดิบ Brent ปิด +2% ที่ระดับ 46.97 เหรียญ/บาร์เรล โดยตลาดได้รับแรงหนุนจาก Short Covering โดยตลาดยังคงปรับตัวต่อเนื่องหลังรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิหร่าน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการสร้างเสถียรภาพแก่ตลาด โดยสัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์ที่น้ำมันดิบมีการปรับตัวมากที่สุดประมาณ6% นับตั้งแต่เดือนเมษายน

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com