ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ และตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่รายงานการประชุมประจำเดือน ก.ค. ของเฟด บ่งชี้ว่า สมาชิกเฟดนั้นมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันว่าต้องเร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,573.94 จุด เพิ่มขึ้น 21.92 จุด หรือ +0.12%
ดัชนี MSCI Asia Pacific ex Japan Index ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ในวันนี้
นักวิเคราะห์จาก AMP Capital Investors Ltd. ระบุว่า ข้อความจากเฟดบ่งชี้ว่า เฟดต้องการขึ้นดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้น
นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ถือเป็นระดับการแข็งค่าขึ้นที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งเกิดจากเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดทุน โดยเป็นผลจากหลายปัจจัยทั้งเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งภายในประเทศยังมีปัจจัยบวกจากเรื่องของผลประชามติที่ออกมารับร่างรัฐธรรมนูญ ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ดีกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์เอาไว้ โดยที่ประชุม กนง. ในวันที่ 3 ส.ค. เองก็ให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและให้ใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในการดูแล ซึ่งรวมถึงการแทรกแซงตลาดการเงินด้วยเช่นกัน
นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 34.55-34.75 บาท/ดอลลาร์