ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร หลังรายงานเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
วันนี้ค่าเงินยูโรปรับตัวลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับ 1.1366 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.7%
ด้านดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลง 1.5% ในสัปดาห์นี้ แม้ว่าวันนี้จะปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยระดับ 94.245 หลังจากที่เมื่อวานร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 94.077 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในตลาดเอเชียเช้านี้ และใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร เพราะได้รับแรงกดดันหลังจากที่รายงานประชุมเฟดเผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดยังไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
Morgan Stanley ระบุ นักลงทุนนั้นคาดการณ์ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมากเกินไป
นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า นักลงทุนในปัจจุบันนั้นคาดการณ์สูงเกินไปเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันนั้นนักลงทุนคาดการณ์ว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 50% อย่างไรก็ดี คาดว่าโอกาสดังกล่าวจะลดลงเหลือ 30% ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัว เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ยังแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี เนื่องจากมีราคาถูกที่สุดในรอบ 1 เดือน เมื่อเทียบกับพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปี โดยคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี จะลดลงสู่ระดับ 0.65% เนื่องจากกระแสคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟดที่ลดลง และยังคาดการณ์ว่าเส้นผลตอบแทน(Yield Curve) จะแบนลง ซึ่งช่วยลด Premium ของพันธบัตรอายุ 5 ปี ได้อีกด้วย
นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟด คาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้
นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานเฟด คาดการณ์ว่า เฟดน่าจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากหากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับเดิมนานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจประสบกับภาวะซบเซา ประกอบกับเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ นายกรีนสแปนชี้ว่า หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยจริงแล้ว ก็อาจดำเนินการด้วยความรวดเร็วจนสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด
น้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ 51 เหรียญ/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์ โดยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องแม้ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันมาแล้ว 6 วันทำการก็ตาม เนื่องจากความหวังที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะสามารถควบคุมการผลิตน้ำมันดิบได้
น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% หรือ 28 เซนต์ ที่ระดับ 51.17 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1% หรือ 47 เซนต์ ที่ระดับ 48.69เหรียญ/บาร์เรล
ซาอุดิอาระเบีย เพิ่มการส่งออกและการผลิตน้ำมันในเดือน มิ.ย. โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.46 ล้านบาร์เรบ/วัน (เดิม 7.3 ล้านบาร์เรล/วัน) ขณะที่การผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 10.55 ล้านบาร์เรล/วัน (เดิม 10.27 ล้านบาร์เรล/วัน)