เมื่อวานนี้มีถ้อยแถลงของประธานเฟด 2 ราย ซึ่งต่างก็มีมุมมองหนุนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC เมื่อวานนี้ว่า โอกาสเฟดที่จะขึ้นดอกเบี้ยกำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจะขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมเชื่อว่า GDP สหรัฐฯในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากภาคการบริโภค อย่างไรก็ดีนายแคปแลน ไม่ได้ระบุว่าจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเมื่อใด
นายแคปแลน ไม่มีสิทธิโหวตในการประชุม FOMC
นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ ผู้มีสิทธิโหวตในการประชุม FOMC ระบุเมื่อวานนี้ว่า ถึงเวลาที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว พร้อมระบุว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
“เราเห็นการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมๆกับอัตราเงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ จึงคาดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยบ้าง” นางจอร์จ กล่าว
ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 32% เมื่อวานนี้จากระดับ 18% ในช่วงสิ้นเดือน ก.ค. ขณะที่ความน่าจะเป็นในเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 57%
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือน ก.ค. เมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการเครื่องจักรและสินค้าอื่นๆที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการใช้จ่ายภาคธุรกิจ อย่างๆไรก็ดี การปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีสาเหตุจากการทะยานขึ้น10.5% ของกลุ่มขนส่ง โดยคำสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์เพิ่มขึ้น 89.9%
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงไปเกือบ 3% เมื่อวันก่อน ขณะที่นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 1.2% เมื่อคืนนี้ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล