เมื่อคืนนี้ทองคำเผชิญกับแรงซื้อขายทางเทคนิค ประกอบกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่เหล่าเทรดเดอร์ที่ประเมินโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนั้นมีมากขึ้นจากถ้อยแถลงสมาชิกเฟดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จึงทำให้สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมถูกกดดันและปิดร่วง 10.6 เหรียญ หรือคิดเป็น 0.8% ที่ระดับ 1,316.5 เหรียญ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงหลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2 วันทำการ ขณะที่เช้านี้ราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 1,310 เหรียญ หลังจากที่ ลงไปทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,308 เหรียญโดยประมาณ
กองทุนทองคำ SPDR ขายออก 1.19 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 955.4 ตัน
อย่างไรก็ดี เหล่าเทรดเดอร์ก็ยังจับตาข้อมูลการจ้างงานรายเดือนที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เนื่องจากจะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และหากข้อมูลการจ้างงานมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นก็จะส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group วิเคราะห์ว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนวันศุกร์บ่งชี้ว่าเธอน่าจะเปิดโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะที่เทรดเดอร์บางส่วน เชื่อว่าโอกาสที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.75% ในเดือนกันยายนมีโอกาส 27% ขณะที่เดือน พฤศจิกายนมีโอกาส 33% และมีโอกาสถึง 55% ในการประชุมเดือนธันวาคม
ผู้อำนวยการนักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก Think Markets เชื่อว่า มีโอกาส 80% ที่เฟดจะทำการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi กล่าวว่า มีแนวโน้มที่เราจะได้เห็นข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนเพิ่มสูงขึ้น หรือเพิ่มความเป็นไปได้มากขึ้นสำหรับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน