ราคาทองคำปรับตัวลงเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ประเมินต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ จึงส่งผลให้เกิดการชะลอการเข้าซื้อทองคำของบรรดากองทุนทองคำ
ทั้งนี้ ทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลงประมาณ 0.2% ที่ระดับ 1,313.05 เหรียญในตลาดสิงคโปร์ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,309.34 เหรียญ ซึงเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา และภาพรวมเดือนนี้ปรับตัวลงแล้ว 2.8%
รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในเดือนนี้อาจเป็นครั้งแรกสำหรับเดือนสิงหาคมนับตั้งแต่ปี 2009 หลังจากที่ปริมาณความต้องการทองคำในกลุ่มจิวเวลรีมักจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลแต่งงานของอินเดีย ควบคู่กับกลุ่มผู้บริโภคทองคำรายใหญ่อย่างจีน แต่ ณ ขณะนี้ ทองคำปรับตัวลงจากถ้อยแถลงเชิงคุมเข้มทางการเงินของเจ้าหน้าที่เฟดที่เพิ่มขึ้นจึงหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า
นักกลยุทธ์จาก IG Asia Pte กล่าวว่า ราคาทองคำกำลังได้รับแรงกดดันจากสัญญาณที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดกำลังจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นายแสตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟดได้กล่าวเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 10 วัน ในเชิงที่เฟดจะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งในขณะนี้ ตลาดกำลังเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง
ดังนั้น นักลงทุนในตลาดต่างพากับรอคอยรายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ (NFP) ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งในขณะนี้เหล่าเทรดเดอร์ประเมินความเป็นไปได้ว่าในเดือนกันยายนเฟดน่าจะมีโอกาส 34% สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจในช่วงต้นเดือนที่ระดับ 18% ขณะที่เดือนธันวาคมมีโอกาส 59%
สำหรับภาพรวมกองทุนทองคำ ETFs ในเดือนนี้มีการเพิ่มการถือครองทองคำประมาณ 25 เมตริกตัน ซึ่งถือเป็นระดับการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุดในปีนี้