• ประธานเฟดริชมอนด์ ไม่เห็นด้วยกับการประชุมเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    5 ตุลาคม 2559 | Economic News


นาย เจฟฟรี แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ หนึ่งใน 7 สมาชิกเฟดที่ไม่มีสิทธิออกเสียงในปีนี้ แต่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมการกำหนดนโยบายการเงิน กล่าวว่า ถ้าเขาเลือกโหวตได้เขาจะเลือกโหวตให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่ผ่านมา จึงถือเป็นแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ นาง เจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด โดยการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านมานั้น แม้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่สมาชิกเฟดที่มีสิทธิออกเสียงจำนวน 3 ใน 10 แสดงความไม่เห็นด้วยต่อมติดังกล่าวเนื่องจากต้องการให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5%


ทั้งนี้ นาย แลคเกอร์ กล่าวว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป “แต่ต้องไม่ค่อยเป็นค่อยไปมากจนเกินไป” และอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำในปัจจุบันอาจทำให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมาย 2% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่รวมพลังงานและอาหาร ที่เป็นหนึ่งในมาตรวัดแนวโน้มเงินเฟ้อของเฟด ปรับตัวขึ้น 1.7% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี-เดือนสิงหาคม โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4% ในช่วงสิ้นสุดปี 2015 ซึ่ง นาย แลคเกอร์ ให้เหตุผลว่า อัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นเพื่อให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม หลังเฟดได้ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และขณะนี้ นาย แลคเกอร์ กำลังกดดันให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยระบุว่า เฟดควรขึ้นดอกเบี้ย เพราะจะเป็นบทบาทสำคัญที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อ


ทั้งนี้ กรอบเป้าหมายดอกเบี้ยของเฟดในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 0.25-0.50% และมีสมาชิกเฟดหลายคนคาดหวังว่าจะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกรอบได้อีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ ได้ก่อนสิ้นปี 2016 นี้ ขณะที่ นาง เยลเลน ประธานเฟดกล่าวในเดือนที่ผ่านมา โดยแสดงความคาดหวังว่าจะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 1 ครั้งในปีนี้


อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดก็ยังคงมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน โดยส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สมาชิกเฟดบางราย อาทิ นายแลคเกอร์ อยากให้เฟดรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย


สำหรับการประเมินระดับอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของเฟด (Fed Funds Futures) สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนเห็นโอกาสที่ระดับดอกเบี้ยของเฟดน่าจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้


ขณะที่ นาย แลคเกอร์ ยังให้เหตุผลว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยของเฟดในปัจจุบันอาจจำเป็นต้องอยู่สูงกว่าระดับ 1.5% พร้อมกล่าวเตือนว่า การคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำมากอาจส่งผลต่อการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปอย่างรุนแรง และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจประสบภาวะตกต่ำ


ที่มา: Reuters


** หมายเหตุ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ดังกล่าวจะมีสิทธิลงคะแนนโหวตในปี 2018


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com