MTS Help Center

ประธานเฟดริชมอนด์ ระบุ ตลาดแรงงานแข็งแกร่งพอที่จะหนุนเงินเฟ้อ

นายเจฟฟรี แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีความร้อนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็น 1 ในเหตุผลสำคัญที่เฟดจะต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดก็ตาม แต่เนื่องจากตลาดแรงงานที่มีอัตราว่างงานเพียง 4.9% นั้นเพียงพอที่จะหนุนค่าจ้างแรงงาน และกดดันให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในระยะถัดไป พร้อมกันนี้นายแลคเกอร์ยังกล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง จะช่วยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วยิ่งขึ้น

รองประธานเฟด ระบุ จากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอาจต้องใช้ QE อีก

นายสแตนลี่ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด (มีสิทธิออกเสียง) ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยตามธรรมชาตินั้นปรับตัวลดลงกดดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯมีอัตราการเติบโตในระดับต่ำและยากที่จะหลุดพ้นได้ โดยนายฟิชเชอร์แสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบการออมและการลงทุนในปัจจุบันซึ่งจะยิ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยตามธรรมชาติลดต่ำลงไปอีก

ดังนั้นด้วยอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อยู่ในระดับต่ำ หากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินขึ้นอีกครั้ง การใช้เครื่องมือทางการเงินที่ไม่ปกติ เช่น QE อาจต้องถูกนำกลับมาใช้

อย่างไรก็ดีในถ้อยแถลงดังกล่าวนายฟิชเชอร์ไม่ได้ระบุถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดอลลาร์ทรงตัวในระดับสูง

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในระดับสูง ในเช้าวันนี้รอคอยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดที่หนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลเศรษฐกิสหรัฐฯที่สดใส

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่บริเวณ 96.153 จุด ใกล้กับระดับสูงสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ระดับ 96.442 จุด ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.

น้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 2.3% สู่ระดับ 49.83 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อวานนี้ หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIAเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์ สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยปรับลดลง 3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 499.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา