ตัวเลขเศรษฐกิจ
ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯเมื่อวานนี้ออกมาน้อยกว่าคาดที่ระดับ 249,000 ราย (เดิม 254,000 ราย, คาดการณ์ 255,000 ราย) ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 83 ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 นอกจากนี้จากตัวเลขที่สดใสยังส่งผลให้ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 253,500 ราย ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 1973
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากข้อมูลภาคแรงงานที่สดใสหนุนโอกาสเฟดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.55% สู่ระดับ 96.658 จุด
ค่าเงินปอนด์แกว่งตัวผันผวนเช้านี้
เช้าวันนี้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลดลงมามากสุดกว่า -6.1% ที่ระดับ 1.1841 ปอนด์/ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ มี.ค. 1985 อย่างไรก็ดีค่าเงินปอนด์ดีดกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็วโดยทรงตัวอยู่ในบริเวณ 1.2472 ปอนด์/ดอลลาร์ หรือ -1.1% ขณะที่สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า เหล่าเทรดเดอร์กำลังประเมินว่าการปรับตัวลดลงดังกล่าวเกิดจากอัลกอรึทึมเทรด (การซื้อขายอัตโนมัติโดยคอมพิวเตอร์) หรือไม่ เนื่องจากในช่วงเช้าของตลาดเอเชียจะมีสภาพคล่องต่ำ ขณะที่บางส่วนคาดการณ์ว่าเกิดจากความผิดพลาดของบุคลากร และอีกส่วนหนึ่งระบุว่าเกิดจากการที่นายฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า อังกฤษจะเผชิญกับความยากลำบากหลังออกจากอียูไปแล้ว
ดอยซ์แบงก์กำลังหาเงินทุนเพื่อชำระค่าปรับ
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ดอยซ์แบงก์ กำลังมีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับบริษัทหลักทรัพย์เกี่ยวกับการหาเงินทุน โดย ณ ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปตัวเลือกว่าจะหาเงินทุนเพิ่มอย่างไร โดยอาจเพิ่มทุนหรือพิจารณาขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ เนื่องจากดอยซ์แบงก์ต้องการหาทุนมาเพื่อชำระค่าปรับต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
โฆษกของดอยซ์แบงก์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
น้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ปีนี้ หลังจากมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "แมทธิว" ได้ทวีความรุนแรงจนถึงระดับ 4 แล้ว ซึ่งส่งผลให้การคาดการณ์ว่าจะสร้างความเสียหายต่อการผลิตน้ำมันในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ