MTS Help Center

ดอลลาร์แข็งค่า

ค่าเงินดอลลาร์เมื่อวานนี้แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อวานนี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นในเดือน ธ.ค. นี้ โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.8% สู่ระดับ 97.65 จุด แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน เมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์โดยหดตัวลง 0.8% สู่ระดับ 1.1054 ดอลลาร์/ยูโร แม้ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปเมื่อวานนี้จะออกมาสดใสก็ตาม

ถ้อยแถลงสมาชิกเฟด

นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯยังสามารถสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆเพิ่มได้อีก และสามารถดึงคนที่อยู่นอกตลาดแรงงานในปัจจุบันให้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ ดังนั้นเฟดจึงควรให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวซึ่งจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นได้ อย่างไรก็ดี นายคาร์ชคาริ ไม่ได้ให้ความเห็นว่าเฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด แต่ระบุว่า การคงอัตราดอกเบี้ยไว้นั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป

นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ระบุเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯนั้นยังไม่อยู่ในสภาวะการจ้างงานเต็มที่ อัตราเงินเฟ้อเองก็ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย ดังนั้นเฟดจึงควรคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนกว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี นายอีแวนส์ ตอบคำถามนักข่าวถึงเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้นั้นน่าจะเหมาะสม

ผลสำรวจเฟดนิวยอร์ก

ผลสำรวจเฟดนิวยอร์กประจำเดือน ก.ย. ชี้ผู้บริโภคลดคาดการณ์เงินเฟ้อและรายได้ในปีหน้าลง โดยลดคาดการณ์เงินเฟ้อในปีหน้าลงเหลือระดับ 2.5% จากเดิมที่ 2.8% และลดคาดการณ์รายได้ลงสู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ 2.4%

ราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง

ราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ปรับตัวลดลง 1.1% ปิดที่ 50.79 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจในข้อตกลงปรับลดเพดานการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน หลังจากที่นายอิกอร์ เซชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรอสเนฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ระบุว่า ทางบริษัทจะไม่ปรับลดกำลังการผลิตลงหรือตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันรายเดือนของกลุ่มโอเปคเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์