ดัชนี MSCI Asia-Pacific ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวลดลงในวันนี้ 0.6% นับเป็นการติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เนื่องจากตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับตัวลงอย่างหนัก หลังข้อมูลการค้าจีนออกมาแย่กว่าคาด และราคาน้ำมันดิบที่หดตัวลง
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง โดยดัชนี Nikkei225 ปรับตัวลดลง 0.4% สู่ระดับ 16,774.24 จุด จากนักลงทุนขายหุ้นกลุ่มส่งออก หลังอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินหยวนของจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 1 ของญี่ปุ่น ทำให้กังวลว่า ทิศทางการอ่อนค่าลงของเงินหยวนของจีนจะส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกญี่ปุ่น ซึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญทางเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนี Shanghai Composite 0.1% สู่ระดับ 3,061.35 จุด เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากที่จีนได้เผยยอดส่งออกเดือนก.ย.หดตัว 5.6%
ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลง โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวลดลง 1.6% สู่ระดับ 23,031.30 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกันก็วิตกเกี่ยวกับยอดส่งออกจีนที่ซบเซา
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.8% หลังจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีการขยายตัวได้ถึง 3.4% จากการที่ภาครัฐเร่งเดินหน้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ในปี 60 SCB EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.3% เป็นผลจากการที่ภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในปี 59
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หาผู้ปล่อยข่าวลือต่าง ๆ จนมีผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างมากเมื่อวานนี้ โดยขอให้นักลงทุนอย่าหลงเชื่อข่าวลือ และขอให้มั่นใจในศักยภาพของประเทศ