ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันนี้เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ชะลอตัวลงไปบ้าง และยังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาปรับตัวลดลงของเหล่านักลงทุนอีกด้วย
นักวิเคราะห์จาก Shandong Gold Group ระบุว่า ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นได้ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยทั่วไปราคาทองคำจะปรับตัวลดลงในระยะสั้น จึงคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงทางเทคนิคได้ต่อ โดยคาดว่าราคาอาดเกิดการรีบาวด์สู่ระดับ 1,270 เหรียญ ก่อนจะปรับตัวลดลงอย่างแรงจากกระแสคาดการณ์เฟด
ในสัปดาห์นี้เหล่านักลงทุนกำลังจับตามองไปยัง 1.ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯในคืนวันอังคาร 2.การรายงาน GDP ไตรมาสที่ 3/2016 ของจีนในวันพุธนี้ 3.การประชุมอีซีบีซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
นาย Bart Melek หัวหน้านักวิจัยสินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุด 1,350 เหรียญ/ออนซ์ในปีหน้า หลังจากที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1,200 เหรียญ/ออนซ์ จากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ดี รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า แม้ราคาทองคำปรับตัวลดลงแต่ปริมาณความต้องการทองคำของนักลงทุนยังคงมีอยู่ อันจะเห็นได้จากปริมาณการถือครองทองคำของบรรดากองทุนในช่วง 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2,050.3 เมตริกัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิถุนายน 2013
HSBC และ MKS ระบุว่า จีนยังคงเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ เนื่องจากค่าพรีเมี่ยมที่อยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบันราคาทองคำในประเทศจีนมีราคาแพงกว่าราคาทองคำในตลาดลอนดอนอยู่ 3.50 เหรียญ ซึ่งช่วยหนุนการเข้าซื้อทองคำจริงของจีนและยังบ่งชี้ถึงความต้องการทองคำยังคงดีอยู่