MTS Help Center

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนื MSCI's Asia-Pacific ex Japan ปรับตัวสูงขึ้น 2 % จากอานิสงส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ได้กล่าวสุนทรพจน์ในเชิงประนีประนอมหลังรับทราบผลการเลือกตั้ง ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการคว้าชัยชนะของทรัมป์ที่พลิกโผคาดการณ์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น และทำจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวสูงขึ้น 6.7% สู่ระดับ 17,344.42 จุด เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น และทำจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือน โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับตัวสูงขึ้น 1.4% สู่ระดับ 3,171.28 จุด และตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Hang Seng ปรับตัวสูงขึ้น 1.9% สู่ระดับ 22,839.11 จุด หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งหุ้นกลุ่มโลหะที่ดีดตัวขึ้นเช่นเดียวกับหุ้นบริษัทเหมืองในตลาดหุ้นอื่นๆที่ขานรับการให้คำมั่นเรื่องการสร้างระบบสาธารณูปโภคของทรัมป์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี เพราะยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าประธานเฟดคนปัจจุบันจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยประกาศว่าหากได้เป็นประธานาธิบดีจะปลดนางเจเน็ต เยลเล็น จึงเชื่อว่าเฟดจะยังคงไม่ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงนี้

โดยตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนมากขึ้น เพราะยังมีความไม่นอนนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเป็นอย่างไรภายหลังจากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดี และประธานเฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ และนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปและจีนอย่างไร ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนโยกเงินลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่น ตราสารหนี้ ทองคำ แต่ตลาดหุ้นไทยที่ผ่านมาถือว่าปรับตัวเร็วจากมีความแข็งแกร่งในเรื่องเศรษฐกิจและบริษัทจดทะเบียนไทยมีกำไรที่ดี