• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559

    14 พฤศจิกายน 2559 | Economic News

ภาพในบรรทัด 3


สมาชิกเฟด ยังหนุนขึ้นดอกเบี้ยแม้นายทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง

นายสแตนลี่ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด ระบุเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เงื่อนไขในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้นแข็งแกร่ง และเฟดใกล้บรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มที่และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% พร้อมระบุจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้นายฟิชเชอร์ยังระบุว่า เขายินดีหากรัฐบาลจะออกนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และยังกล่าวว่าการใช้นโยบายการคลังของรัฐบาลนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้

ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมามีถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ นายสแตนลี่ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด, นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซ็นต์หลุยส์ (มีสิทธิออกเสียง), นาย เจฟฟรี แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ (ไม่มีสิทธิออกเสียง) และนายจอห์น วิลเลี่ยมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก (ไม่มีสิทธิออกเสียง) ซึ่งทั้ง 4 รายต่างมีความเห็นเชิงบวกต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งสิ้น


ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐออกมาดีกว่าคาด

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นโดย UoM ออกมาดีกว่าคาดที่ระดับ 91.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. จากระดับเดิมที่ 87.2 ในเดือนก่อนหน้า และมากกว่าที่คาดที่ระดับ 87.4 จุด โดยผู้บริโภคได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะยาวจะเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.7% เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในเดือนก่อนที่ 2.4%


ภาพรวมตลอดสัปดาห์ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบปี

ดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้ปรับตัวสูงขึ้น 0.21% สู่ระดับ 98.99 จุด ภาพรวมตลอดสัปดาห์แข็งค่าขึ้น 2% นับเป็นสัปดาห์ที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2015 ขณะที่ค่าเงินเปโซ ของแมกซิโก ตลอดสัปดาห์อ่อนค่าลงกว่า 10.4% เมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 20.8329 จุด


ขณะที่เช้าวันนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อ โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก 0.53% สู่ระดับ 99.59 จุด นับเป็นจุดสูงสุดในรอบกว่า 9 เดือน


เงินไหลออกจากเอเชีย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กและรอยเตอร์ส รายงานว่า ธนาคารกลางในหลายประเทศเอเชียต้องเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อพยุงค่าเงินของตนเอง วันที่ 11 พ.ย. หลังจากที่เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นทำสถิติเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน เนื่องจากตลาดคาดว่านโยบายของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจเร่งให้เกิดภาวะทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กลับไปยังสหรัฐเร็วขึ้น

รายงานระบุว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียได้เข้าแทรกแซงหลังจากที่เงินรูเปียห์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จนลงไปทุบสถิติต่ำสุดรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 1998 ที่ 13,265 รูเปียห์/เหรียญสหรัฐ ระหว่างการซื้อขาย วันที่ 11 พ.ย. ขณะที่ค่าเงินริงกิต มาเลเซีย อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบกว่า 12 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2004 โดยดิ่งลงไปถึง 3.7% ในการซื้อขายที่ตลาดออฟชอร์แตะระดับ 4.5395 ริงกิต/เหรียญสหรัฐ

นานัง เฮนดาร์ซาห์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดเงินธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อพยุงค่าเงิน แต่ก็ยังไม่เห็นภาวะทุนไหลออกในปริมาณมาก และเชื่อว่าความผันผวนนี้จะเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น


น้ำมันดิบ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงมากกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่สูงเกินไปในตลาดโลก ซึ่งประทุขึ้นจากรายงานที่ว่าผลผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปค ปรับตัวเพิ่มขึ้น 240,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. แตะที่ 33.64 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน ต.ค. และข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐจากเบเกอร์ ฮิวส์ ที่ระบุว่า มีแท่นขุดเจาะเพิ่มขึ้น 21 แท่น แตะระดับ 744 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com