MTS Help Center

ราคาทองคำทรงตัวเมื่อวานนี้ แม้จะถูกกดดันโดยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปีก็ตาม แต่ก็ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิตและผลผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยราคาทองคำ COMEX ปรับตัวลดลงเพียง 0.05% สู่ระดับ 1,223.9 เหรียญ

ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 100.57 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2003 ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อย โดยในช่วงเช้าของตลาดเอเชียอยู่ที่ระดับ 100.26 จุด

นักวิเคราะห์จาก BBH ระบุถึงปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงนี้ว่าเกิดจาก 1.เฟดที่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ โดยจากเดิมก่อนการเลือกตั้งสหรัฐ ตลาดการเงินประเมินว่าเฟดมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 2 ใน 3 แต่ในขณะนี้ประเมินว่ามีโอกาสมากกว่า 90% และนอกจากนี้แล้วยังเพิ่มประมาณการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในปี 2017 ด้วย 2. การคาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้จะยังไม่ทราบรายละเอียดก็ตาม 3. ความไม่แน่นอนของยุโรป ซึ่งประเทศหลายประเทศกำลังมีการเลือกตั้งและการทำประชามติในช่วงนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า

นักวิเคราะห์จาก HSBC ระบุว่า ความต้องการทองคำจริงนั้นดูเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,200 เหรียญ ซึ่งเป็นแรงหนุนราคาทองคำไม่ให้ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้

เมื่อวานนี้กองทุน SPDR ขายทองคำออกมาอีก 1.19 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 926.26 ตัน นับเป็นการขายทองคำออกมาติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งรวมแล้วขายทองคำออกมาทั้งสิ้น 28.77 ตัน