ถ้อยแถลงประธานเฟด
นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า การขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงบ่งชี้ถึงพัฒนาการทางเศรษฐกิจว่ากำลังจะเข้าสู่เป้าหมายของเฟดอย่างต่อเนื่อง และเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไปจะเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ดีนายเยลเลน ไม่ได้ให้ความเห็นต่อว่านโยบายและการบริหารงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่อย่างใด
นอกจากนางเยลเลนแล้ว เมื่อวานนี้ยังมีถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดอีก 2 ราย ได้แก่ นายวิลเลี่ยม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก (มีสิทธิออกเสียง) และ นางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด (มีสิทธิออกเสียง) อย่างไรก็ดีทั้งสองคนไม่ได้ให้ความเห็นเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ออกมาสดใส ช่วยหนุนการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ออกมาปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. โดยปรับตัวสูงขึ้น 0.4% ขณะที่เมื่อเทียบรายปี CPI ปรับตัวสูงขึ้น 1.6% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2014 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาแก๊สโซลีนและค่าเช่า
ส่วนยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐที่ออกมาลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 235,000 ราย น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 1973 และนับเป็นสัปดาห์ที่ 89 ติดต่อกันที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย
ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. นี้อยู่ที่ระดับ 95%
น้ำมันดิบ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 45.42 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แม้จะมีปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันได้ก็ตาม