ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อในวันนี้ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 13 ปีครึ่ง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ พร้อมกันนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 10 ปี เองก็ปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี โดยยังได้รับผลกระทบจากกระแสคาดการณ์นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ที่จะออกมาช่วยหนุนเศรษฐกิจ
ดัชนีดอลลาร์ในวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น 0.39% สู่ระดับ 101.26 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ เม.ย. 2003
อินเดียและมาเลเซีย เข้าแทรกแซงค่าเงินของตนเอง
ธนาคารกลางอินเดียและมาเลเซียได้เข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้อัตราแลกเปลี่ยนของตนมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ถูกกดดันจากการที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาด โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางอินโดนีเซียซึ่งได้เข้าแทรกแซงค่าเงินของตนเองไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ค่าเงินรูเปียะอ่อนค่าลงกว่า 3%
นาย Adnan Zaylani ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia) ระบุในวันนี้ว่า ธนาคารกลางฯได้เข้าแทรกแซงค่าเงินริงกิตที่อ่อนค่าลงทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 10 เดือน
ส่วนธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจของอินเดียได้ขายดอลลาร์ออกมา สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า การเทขายดังกล่าวอาจคำสั่งมาจากธนาคารกลางอินเดีย
ทั้งนี้ผลกระทบจากชัยชนะของนายทรัมป์ยังคงกดดันค่าเงินและสินทรัพย์ของประเทศต่างๆ เนื่องจากนักลงทุนส่งเงินกลับสู่สหรัฐ โดยนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียอ่อนค่าลง 4.9%, ค่าเงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าลง 4%, ค่าเงินรูเปียะของอินโดนีเซีย่อนค่าลง 2.6%, ค่าเงินเปโซของฟิลิปปินส์อ่อนค่าลง 2.3% และค่าเงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลง 2.2%
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้
น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 0.51% สู่ระดับ 45.19 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 0.34% สู่ระดับ 46.15 เหรียญ/บาร์เรล ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งบดบังความหวังที่ว่ากลุ่มโอเปกอาจจะบรรลุข้อตกลงในการลดการผลิตน้ำมันดิบ