MTS Help Center

ราคาทองคำในช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ปรับตัวขึ้น 12.34 เหรียญ แตะระดับ 1,188 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะปรับตัวลดลงในช่วงทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในช่วงระหว่างการซื้อขายตลาด New York บริเวณ 1,157 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะรีบาวน์กลับขึ้นมาปิดแถว 1,175 เหรียญ

โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ของตลาด COMEX เมื่อคืนนี้ปิด -0.11% ที่ระดับ 1,176.5 เหรียญ หลังจากที่ปิดระดับ 1,177.8 เหรียญในคืนวันศุกร์ โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

เมื่อวานนี้ราคาทองคำแกว่งจากการลงประชามติของอิตาลีที่เสียงส่วนใหญ่เลือกโหวต "NO" ไม่รับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญตามคาด และมีผลให้ นายมัตเตโอ เรนซี ประกาศจะลาออกตามสัญญาที่ให้ไว้

ทั้งนี้ แม้การลงประชามติของอิตาลีจะสร้างความกังวลต่ออนาคตของอิตาลีในภูมิภาคยุโรป แต่ระบบกฎหมายและการเมืองของประเทศนั้น การโหวต "NO" ยังไม่มีแนวโน้มจะกระตุ้นให้เกิดการเร่งออกจากอียู ซึ่งเหตุการณ์ของอิตาลีไม่เหมือนกับกรณี Brexit ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมากต่อโครงสร้างของเศรษฐกิจและการเมืองของอังกฤษ

นักกลยุทธ์จาก IG Asia กล่าวว่า สินทรัพย์ปลอดภัยดูจะตอบรับอย่างรวดเร็วในช่วงแรกที่ทราบผลการลงประชามติอิตาลี ก่อนที่ตลาดจะทำการเทขายกลับลงมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งผลการลงประชามติอาจเป็นเพียงผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคารอิตาลี และโครงสร้างการรวมเป็นหนึ่งของอียู

อย่างไรก็ดี แม้ผลการลงประชามติอิตาลีจะเป็นปัจจัยที่หนุนปริมาณความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยบางส่วน แต่การจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก็จำกัดความต้องการในทองคำด้วยเช่นกัน

ซึ่งถ้อยแถลงของ นายวิลเลียม ดัดเลย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวสนับสนุนการค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จากความเชื่อมั่นที่ว่าเฟดกำลังใกล้บรรลุ 2 เป้าหมายในการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนการจ้างงาน

เครื่องมือ FedWatch จาก CME Group ล่าสุด ประเมินว่า โอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0.5% สู่ระดับ 0.75%เป็นอย่างน้อยในการประชุมเฟดเดือนนี้ และเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า มีโอกาสเท่ากันที่ 93%

ขณะที่ กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 0.32 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 869.9 ตัน