ราคาทองคำปรับตัวลงจากการรีบาวน์กลับของค่าเงินดอลลาร์เกือบ 1% เมื่อวานนี้ ขานรับการตัดสินใจของอีซีบีที่ประกาศขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรจนถึงเดือนธันวาคมปีหน้า พร้อมลดวงเงินการเข้าซื้อรายเดือน ซึ่งการขยายเวลาดังกล่าวมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน
ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาด COMEX ปิดปรับตัวลง 5.1 เหรียญ หรือคิดเป็น 0.43% ที่ระดับ 1,172.4 เหรียญ
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันจากข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯที่ปรับตัวลง 10,000 ราย สู่ระดับ 258,000 ราย ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเครื่องมือ FedWatch จาก CME Group ล่าสุด บ่งชี้ว่า เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมและเดือนกุมภาพันธ์มากถึง 97%
นักวิเคราะห์จาก ICBC Standard Bank มีมุมมองว่า แม้ราคาทองคำจะอยู่ภายใต้แรงกดดัน แต่ก็มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2017 โดยอาจเห็นราคาทองคำมีการซื้อขายแถวระดับ 1,160 เหรียญในช่วงครึ่งปีแรก ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น จากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลชุดใหม่ของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และคาดว่าในช่วงครึ่งแรกของปีทองคำน่าจะปิดแถวระดับการเคลื่อนไหวในปัจจุบันบริเวณ 1,172 เหรียญ
ขณะที่มาตรการทางการเงินที่หนุนเงินเฟ้อ อาจเป็นแรงกดดันของทองคำในช่วงไตรมาสแรก แต่ระดับเพดานหนี้และยอดงบประมาณขาดดุลอาจหนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นในไตรมาสที่ 2/2017
อย่างไรก็ดี ICBC ยังคาดการณ์ ในปีหน้ามีโอกาสที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งเฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อปกป้องตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งคิดเป็น 13% ของจีดีพี และในเวลาเดียวกันเฟดอาจต้องจำกัดการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์เพื่อปกป้องภาคการผลิต ซึ่งคิดเป็น 12% ของจีดีพี