เมื่อวานนี้ราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงประมาณ 7.47 เหรียญ ที่ระดับ 1,151.53 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาแถวระดับ 1,165.65 เหรียญในช่วงต้นตลาดนิวยอร์ก และจากนั้นก็มีการปรับตัวลดลง ก่อนที่จะกลับมาปิดปรับตัวขึ้น 5.5 เหรียญ ที่ระดับ 1,167.7 เหรียญ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงปิดระดับทรงตัวหลังจากที่ปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 10 เดือนเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนบางส่วนจากกลุ่มนักลงทุนที่ชื่นชอบของถูก และกระแสเงินในตลาดจากการทำ Short Covering
ขณะที่ราคาทองคำในตลาดเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวแถวระดับ 1,164.18 เหรียญ โดยปรับขึ้นจากระดับเปิดวานนี้บริเวณ 1,158.21 เหรียญ
กองทุนทองคำ SPDR ยังคงเทขายต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วันทำการ โดยเมื่อวานนี้ขายออกเพิ่ม 1.19 ตัน ปัจจุบันคงทองคำที่ระดับ 856.26 ตัน (รวมวันศุกร์และจันทร์ขายออก 4.45 ตัน) ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมจนถึงปัจจุบัน SPDR ทำการเทขายออกสุทธิ 27.6 ตัน ซึ่งเป็นการเทขายระดับรายเดือนติดต่อกันในช่วง 3 เดือน
นักวิเคราะห์จาก Kitco ระบุว่า ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำเป็นลักษณะ Risk-on และมีแรงหนุนบางสว่นจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันที่ไปทำจุดสูงสุดในรอบ 16 เดือนวานนี้ อย่างไรก็ดี ตลาดรอคอยผลการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยมีโอกาสทีเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 100% ในการประชุมคืนนี้ ซึ่งคาดว่า วันพรุ่งนี้ตลาดจะเกิดซื้อขายในลักษณะ Sell the rumor, Buy the fact ขณะที่ราคาทองคำโดยภาพรวมยังเป็นทิศทางขาลง ซึ่งหากทองคำหลุดแนวรับ 1,150 เหรียญ จะมีแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,125 เหรียญ ขณะที่แนวต้านด้านบนในวันนี้จะอยู่บริเวณ 1,175 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก ICBC Standard กล่าวว่า การประชุมเฟดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวาระนี้ และดูเหมือนว่าจะไม่มีแนวโน้มที่เฟดจะทำอะไรแตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันตลาดก็รอสัญญาณจากการประชุมเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีหน้า
ผลสำรวจจากคิทโก ชี้ให้เห็นว่า เสียงส่วนใหญ่ของบรรดานักเก็งกำไร 58% และผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำ 55% มองว่าสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ประธานและผู้อำนวยการประจำ Adrian Day Asset Management กล่าวว่า ทองคำในช่วงต้นสัปดาห์น่าจะฟื้นตัวหลังเผชิญแรงเทขายนับตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่น่าจะเป็นเพียงการขึ้นชั่วคราวและทองคำน่าจะกลับมาปรับตัวขึ้นได้ สำหรับกรณีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดครั้งนี้ ดูเหมือนว่าทองคำน่าจะปรับตัวขึ้นได้มากกว่า
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์จาก Price Futures Group คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นได้จากการประชุมเฟดในครั้งนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะ “สวนทาง” เนื่องจากน่าจะมีแรงเข้าซื้อท่ามกลางตลาดที่น่าจะมีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจากข่าวเกี่ยวกับกฎหมาย “Sharia” ของกลุ่มอิสลามที่อนุมัติให้มีการลงทำนทองคำในภาคการเงินของอิสลาม นอกจากนี้ทองคำมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ปรับตัวร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จาก RJO Futures ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ประเด็นจากการประชุมเฟดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนทองคำ โดยตลาดน่าจะรอคอยถ้อยแถลงจากเฟดว่าจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรในปีหน้ามากกว่า ดังนั้น การลงทุนทองคำในช่วงนี้จึงควรเป็นลักษณะ “Wait and See” รอคอยถ้อยแถลงจากเฟด
ด้านนักวิเคราะห์จาก Morrison คาดว่า มีความเป็นไปได้ที่ทองคำจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1,185 เหรียญ แม้ว่าการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนต่อราคาทองคำ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ทองคำยังคงสามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,150 เหรียญได้ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่การฟื้นตัวเหนือ 1,180 เหรียญก็จะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้ที่รอขาย อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวโน้มว่าจะมีกระแสเงินลดลงในตลาดทองคำจนถึงช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังประเมินว่ามีโอกาสอย่างน้อย 2 ครั้งที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2017 โดยอยู่ในกรอบระหว่าง 1.00% - 1.25%