
ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.58% ที่ระดับ 19,911.21 จุด ด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.65% และดัชนี Nasdaq ปิด +0.95%
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวขึ้นจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และปิดห่างจากระดับ 20,000 จุดเพียงเล็กน้อย โดยตลาดได้รับแรงหนุนหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ส่งสัญญาณภาวะอ่อนตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นแล้วประมาณ 9% จากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะลดภาษี การปรับมาตรการ รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักลงทุนบางรายประเมินว่า หากดัชนีดาวโจนส์ยังคงได้รับสัญญาณความเชื่อมั่นเชิงบวกอาจหนุนให้ดัชนีปรับขึ้นแตะระดับ 20,000 จุด ซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา
เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดทำสถิติสูงสุดจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้ ประกอบกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคผู้ผลิตที่ออกมาดีขึ้น โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.15%
เทรดเดอร์อาวุโสจาก OANDA ระบุว่า ตลาดกำลังจับจ้องไปยังการตัดสินใจของเฟด รวมไปถึงมุมมองการดำเนินการลำดับต่อไปจากถ้อยแถลงของ นางเยลเลน ประธานเฟด
อย่างไรก็ดี ตลาดไม่มีมุมมองว่าเฟดจะสร้างผลกระทบในช่วงเข้าสู่เทศกาลคริสมาสต์ แต่ค่อนข้างมีโอกาสที่จะเห็นสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 – 35.70 บาท/ดอลลาร์ รอคอยผลการประชุมเฟด
