ราคาทองคำเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน บริเวณ 1,159.97 เหรียญ โดยราคาทองคำปรับตัวลงเป็นครั้งที่ 3ในรอบ 4 วันทำการ ก่อนทราบผลการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับนักลงทุนคาดหวังว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังคงทำสถิติสูงสุด
ราคาทองคำทรุดตัวลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จากการที่เฟดตัดสินใจจะทำการคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจทีสดใสที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะทำการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทางด้านดัชนี S&P500 และดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดตลอดเวลา จึงทำให้ลดความน่าสนใจในทองคำลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 เป็นอย่างน้อย
ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและประธานบริษัท Sumitomo Corp. Global Research Co., ราคาทองคำมีแนวโน้มน้อยลงที่จะเป็นสินทรัพย์ทางเลือกสำหรับนักลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมดในปี 2017 และคาดว่าในปีหน้าจะมีกรอบการซื้อขายระหว่าง 1,050 เหรียญ และ 1,250 เหรียญ แม้ว่าทองคำอาจมีแรงสนับสนุนจากความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้นจากนโยบายการดำเนินสัมพันธไมตรีของนายทรัมป์
ข้อมูลจาก Bloomberg แสดงให้เห็นว่า การถือครองทองคำของกองทุน ETF ปรับตัวลดลงจากราคาทองคำที่ปรับตัวลดต่อเนื่องติดต่อกัน 23 วันทำการ และเป็นระดับการปรับตัวลดลงที่ติดต่อนับตั้งแต่พฤษภาคมปี 2013 โดยสินทรัพย์ปรับตัวลดลง 1.1 เมตริกตันที่ระดับ 1,830.6 ตัน โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน
ขณะที่การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับขึ้นอัตรดาอกเบี้ยถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะฉุดรั้งราคาทองคำ แต่นักลงทุนอาจต้องการเข้าซื้อราคาน้ำมันและกลุ่มโลหะพื้นฐาน เพราะได้รับอานิสงค์จากนโยบายการเงินของจีนและสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์จาก Oversea-Chinese Banking Corp., คาดการณ์ว่าในปี 2017 ราคาจะปรับตัวลดลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจำนวน 2 ครั้ง
นักวิเคราะห์จาก Comerzbank AG คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจปรับขึ้นแตะ 1,300 เหรียญในไตรมาสสุดท้ายของปีหน้า และไต่ระดับ 1,400 เหรียญในปี 2018 หากอัตราดอกเบี้ยแท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำและปริมาณความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับทิศทางขาขึ้นจากความเป็นไปได้ที่ทั่วโลกจะเผชิญกับภาวะซบเซา
นักวิเคราะห์จาก The Old Mutual Gold&Silver Fund คาดว่า ราคาทองคำจะปรับตัวอย่างแข็งแกร่งจากการที่เฟดพลาดโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วพอเพื่อรักษาการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ