• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 14 ธันวาคม 2559

    14 ธันวาคม 2559 | Economic News

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจากกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยว่าเฟดจะส่งสัญญาณเร่งต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมทั้งกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับงบประมาณทางการเงินภายใต้นโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่

สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า การประชุมเฟดที่จะสิ้นสุดลงในคืนวันนี้น่าจะเกิดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยมีระดับเป้าหมายการปรับขึ้น 0.25% สู่ระดับ 0.50 - 0.75% ซึ่งจะถือเป็นการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินในช่วงปี 2007-2008 หลังจากที่ตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์จาก Barclays กล่าวว่า ตลาดคาดว่าฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน พร้อมทั้งจับตาไปยังแนวโน้มการดำเนินการต่อในปีหน้า ซึ่งคาดว่าเฟดจะยังคงคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าจำนวน 2 ครั้ง แต่หากเฟดตัดสินใจเพิ่มการคุมเข้มทางการเงินก็จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่แถวระดับ 101 จุด โดยปรับอ่อนค่าจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงต้นตลาดวันจันทร์ที่ผ่านมาบริเวณ 101.78 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นบริเวณ 1.0637 ดอลลาร์/ยูโร โดยปรับขึ้นจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ระดับ 1.0525 เยน/ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าลงสู่ระดับ 115.25 เยน/ดอลลาร์ โดยยังคงอยุ่ต่ำกว่าระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 10 เดือน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาบริเวณ 116.12 เยน/ดอลลาร์

ผู้อำนวยการนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางจีน เผยว่า แนวโน้มการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะชะลอตัวลงในปี 2017 ขณะที่การเติบโตของภาคการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed-Asset) จะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน

อย่างไรก็ดี การค้าระหว่างประเทศของจีนคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในปีหน้า ขณะเดียวกันการอุปโภคบริโภคภายในประเทศอาจมีเสถียรภาพมากขึ้น พร้อมคาดว่า นโยบายการต่างประเทศเชิงรุกของจีนจะยังคงดำเนินต่อไปในปีหน้า

รายงานจาก Thomson Reuters เผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเอเชียปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2016 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบปี จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ที่ชะลอตัว จากสภาวะการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในระดับต่ำ

โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเอเชียในช่วงครึ่งปีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 63 จุด จากระดับ 68 จุดในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2016

ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนให้การสนับสนุนค่าเงินหยวน หลังราคาสิ่งทอปรับตัวลดลงเพื่อเป็นการฟื้นความมั่นใจในนักลงทุนที่มีต่อค่าเงินหยวน ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนให้สัญญาณการสนับสนุนเต็มที่ และกล่าวว่าเสถียรภาพในเศรษฐกิจจะทำให้การเสื่อมของราคาลดน้อยลงให้อนาคต

ความกังวลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนที่มากเกินไปในประเทศจีน ได้เพิ่มขึ้นหลังจากการชนะการเลือกตั้งของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ เนื่องจากนโยบายเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน และกล่าวหาประเทศจีนว่าได้จงใจทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนตัว ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในค่าเงินหยวนในภาพรวม

ภายในปีนี้เงินหยวนได้ปรับตัวลดลงไปแล้วมากกว่า 6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์ที่มีนโยบายของทรัมป์หนุนหลังอยู่ ซึ่งจะกระตุ้นการเติบโตในเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทำให้เฟดมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 1.3% สู่ระดับ 52.29 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 1.08%สู่ระดับ 55.12 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในอย่างเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com