ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนครึ่ง โดยปิด +0.7% ที่ระดับ 1,137.4 เหรียญ จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นสัปดาห์ที่มีความผันผวนมากทีสุด อันเนื่องมาจากเฟดตัดสินใจส่งสัญญาณว่าอาจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2017 มากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาราคาทองคำลงมาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,122.35 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้ภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปิดปรับตัวลง 2% และถือเป็นสัปดาห์ที่ 6 ที่ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนบางส่วนจากกรณีข้อพิพาท ที่ทางการสหรัฐฯ กล่าวว่า เรือรบจีนโจมตีโดรนสำรวจใต้น้ำสังกัดองค์การบริหารสมุทรศาสตร์สหรัฐฯ ภายในบริเวณทะเลจีนใต้
ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน LOGIC Advisor กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวดังกล่าว แต่น่าจะเป็นการรับข่าวระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะโจมตีกันและกัน
กองทุนทองคำ SPDR ลดการถือครองทองคำลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยวันศุกร์ขายออกอีก 5.34 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 836.99 ตัน ส่งผลให้ภาพรวมเดือนธันวาคมมีปริมาณการขายออกสุทธิ 46.87 ตัน ซึ่งถือเป็นเดือนที่ 3 ที่ SPDR ยังคงเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง
ผลสำรวจจาก Kitco พบว่า ความเห็นส่วนใหญ่ของนักเก็งกำไรในตลาดกว่า 44% มองว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ 38% มองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลง สวนทางกับผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำส่วนใหญ่กว่า 56% มองทองคำปรับตัวลง ขณะที่ 33% มองว่าจะปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นจากแรงทำ Short Covering ขณะที่ตลาดเริ่มมีภาวะ Oversold จากภาพทางเทคนิค
นักวิเคราะห์จาก IG Markets แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกต่อตลาดทองคำบ้าง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงขานรับกับทิศทางขาลง จึงแนะนำให้จับตาบริเวณแนวรับ 1,122 เหรียญ หากหลุดลงมามีโอกาสจะกดดันให้ราคาหลุดต่ำกว่า 1,100 เหรียญ ซึ่งจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,097 เหรียญ แต่หากทองคำสามารถยืนเหนือ 1,140 เหรียญได้เป็นอย่างน้อย ก็มีโอกาสจะถูกแรงเทขายให้กลับลงมาอีกในระยะสั้น
นักกลยุทธ์จาก Scotiabank กล่าวว่า มีโอกาสจะเห็นราคาทองคำหลุด 1,100 เหรียญ และมีโอกาสที่จะดีดกลับเหนือ 1,172 เหรียญ หากทองคำสามารถขจัดความเชื่อมั่นขาลงของนักลงทุนในตลาดได้
รายงานจาก CNBC ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 11% ในสัปดาห์ที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่ทราบผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน กล่าวว่า การปรับตัวลงน่าจะเกิดขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดเหนือระดับ 1,375 เหรียญในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้ภาพราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ในปีนี้ แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาราคาทองคำกลับตกลงมาทำจุดต่ำสุดแถว 1,124 เหรียญ หรือปรับตัวลงกว่า 64 เหรียญ คิดเป็น 5.6% ส่งผลให้ภาพรวมราคาทองคำก้าวออกจากภาพขาขึ้นในปีนี้ ซึ่งหากทองคำปิดแดนลบในช่วงสิ้นปี 2016 อาจเป็นการตอกย้ำถึงทิศทางขาลงของทองคำติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยช่วงสุดท้ายที่มีการปรับตัวลงต่อเนื่องคือในช่วงปี 1988-1992
Bank of America Merrill Lynch (BoAML) กล่าวว่า น่าแปลกใจต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วง 5 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่สหรัฐฯเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับต่อประธานาธิบดีคนใหม่ ดังนั้นในช่วงนี้จึงต้องระมัดระวังต่อทิศทางทองคำ
ซึ่งรายงานการประชุมของ BoAML กล่าวว่า การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเป็น 2 ปัจจัยใหญ่ที่สร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในปีหน้า ซึ่งคาดว่าราคาทองคำจะมีระดับราคาซื้อขายแถว 1,200 เหรียญในช่วงกลางปี 2017 และมีแรงจำกัดการปรับตัวขึ้นในระยะสั้น ซึ่งน่าจะไม่ต่างจากระดับราคาปัจจุบัน โดยที่คืนวันศุกร์ราคาทองคำปิดที่ระดับ 1,137.40 เหรียญ
Thai
Eng