ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 103.30 จุดในเช้านี้ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี บริเวณ 103.65 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 2002 ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การอ่อนค่าของค่าเงินเยนช่วยหนุนหุ้นญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบปี
ด้านค่าเงินเยนปรับตัวลงเล็กน้อยบริเวณ 117.80 เยน/ดอลลาร์ ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวแถวระดับ 1.0394 ดอลลาร์/ยูโร
อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงตอบรับท่าทีที่เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม ท่ามกลางอีซีบีและบีโอเจยังคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับติดลบ
รายงานจาก CNBC ระบุว่า ค่าเงินสิงคโปร์ดอลลาร์ปรับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 ท่ามกลางภาวะวิกฤตการเงินทั่วโลก ซึ่งมีแนวโน้มที่ปรับอ่อนค่าต่อ โดยเมื่อวานนี้ปรับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 1.4506 สิงคโปร์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4428 สิงคโปร์/ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2009
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวสูงขึ้น 11 เซนต์ ที่ระดับ 52.23 เหรียญ/บาร์เรล ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 64 เซนต์ ที่ระดับ 55.56 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้จากคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯจะปรับตัวลงซึ่งอาจสะท้อนถึงภาวะอุปทานน้ำมันดิบที่ล้นตลาดทั่วโลกกำลังชะลอตัวลง
ผลสำรวจนักวิเคราะห์จากรอยเตอร์ส คาดว่า รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมาของ EIA จะปรับตัวลงแถวระดับ 2.4 ล้านบาร์เรล หลังจากที่ข้อมูลจาก API พบว่าสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นลดลงไป 4.1 ล้านบาร์เรล