เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกครั้งเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลดลงจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาผสมผสาน โดยค่าเงินเยนแข็งค่าลงมาเล็กน้อย 0.2% ที่ระดับ 117.30 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.0457 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาที่ระดับ 103.00
สำหรับวันนี้ ปริมาณการซื้อขายน่าจะเงียบเหงาเนื่องจากหลายๆตลาดหลักปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส
ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ พบว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพฤศจิกายนออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 592,000 ยูนิต โดยปรับตัวสูงขึ้น 29,000 ยูนิตเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยภาพรวมปรับตัวขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี และถือเป็นการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 2007
ขณะที่ผลการปรับทบทวนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนประจำเดือนธันวาคม ออกมาดีตามที่คาดไว้แตะระดับ 98.2 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2004 จากมุมมองเชิงบวกทางการเงินและสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯจากการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
ทั้งนี้ ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯทั้ง 2 ตัว ยังคงส่งสัญญาณแข็งแกร่งต่อมุมมองทางเศรษฐกิจและอาจหนุนการขยายตัวต่อได้ในปีหน้า
น้ำมันดิบ WTI ปิด +0.13% ที่ระดับ 53.02 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +0.2% ที่ระดับ 55.16 เหรียญ/บาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่มีการปิดสถานะทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับตัวลงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ จนกว่าจะเข้าสู่ช่วงปีหน้า โดยเหล่าเทรดเดอร์ยังคงรอความชัดเจนจากกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
ด้าน Business Standard คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในช่วงระหว่างปี 2017-2018 จะมีราคาเฉลี่ยระหว่าง 55 – 60 เหรียญ/บาร์เรล