เมื่อวานนี้คอนเฟอร์เรนซ์บอร์ด เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนธันวาคมออกมาดีขึ้นแตะระดับ 113.7 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2001 เพราะได้รับอานิสงค์จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่หนุนมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ ภาคแรงงาน และรายได้
ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขานรับกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สดใส โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% ทำจุดสูงสุดระหว่างวันบริเวณ 103.04 จุด ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.0459 ดอลลาร์/ยูโร
รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นประจำเดือนพฤศจิกายนออกมาดีขึ้นเกินคาด โดยปรับตัวขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงหนุนมุมมองเชิงบวกของบีโอเจที่ว่า อุปสงค์ทั่วโลกกำลังปรับตัวขึ้น จึงอาจหนุนให้เศรษฐกิจยังฟื้นตัว
ซึ่งข้อมูลล่าสุด อาจส่งผลให้บีโอเจลดการขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือน ประกอบกับข้อมูลส่งออกล่าสุดที่ฟื้นตัวได้จึงช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +1.7% ที่ระดับ 53.90 เหรียญ ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด +1.6% ที่ระดับ 56.03 เหรียญ/บาร์เรล
โดยราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นในช่วงส่งท้ายปี เพราะได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ภาวะอุปทานจะตึงตัวจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตระหว่าง กลุ่มโอเปกและนอกโอเปกเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีเป็นครั้งแรก และจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคมนี้