• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 มกราคม 2560

    4 มกราคม 2560 | Economic News

 


* ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและค่าเงินสกุลหลักส่วนใหญ่เมื่อวานนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการขยายตัวที่แข็งแกร่งของภาคการผลิตสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 103.82 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 2002 ก่อนที่เช้านี้จะย่อลงมาที่ระดับ 103.38 จุด

ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปี แตะระดับ 1.0342 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0399 ดอลลาร์/ยูโร สำหรับค่าเงินเยนอ่อนค่าขึ้นไปบริเวณ 118.60 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่เช้านี้ค่าเงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.88 เยน/ดอลลาร์

* สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ ออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 54.7 จุด จากระดับ 53.2 จุดในเดือนก่อนหน้า และข้อมูลล่าสุดถือได้ว่ากิจกรรมภาคโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐฯมีการขยายตัวในอัตราเร่งมากที่สุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางยอดคำสั่งซื้อสินค้าใหม่และราคาโลหะวัตถุดิบปรับตัวขึ้น จึงช่วยหนุนภาคการผลิตที่ประสบกับภาวะการแข็งค่าอย่างยาวนานของดอลลาร์ และการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบที่ค่อยๆเลือนหายไป

ทั้งนี้ ยอดคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวขึ้น 7.2% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2014 เพราะได้รับแรงหนุนจาก 12 ภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย ปิโตรเลียม, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้, อุปกรณ์และอะไหล่รถยนต์

* สำหรับผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจคืนวันศุกร์ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเขตชิคาโกเดือนธันวาคมออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ 54.6 จุด จากเดิมในเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 57.6 จุด โดยกิจกรรมภาคธุรกิจในเขตมิดเวสต์ออกมาแย่กว่าที่คาดเพราได้รับแรงกดดันจากดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่และภาคการผลิตที่ปรับตัวลดลง ขณะที่การจ้างงานที่ชะลอตัวลงมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน

* เฟดสาขาแอตแลนต้า ปรับเพิ่มประมาณการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 4/16 คาดจะขยายตัวได้ 2.6% จากเดิมที่ระดับ 2.5%

* ราคาน้ำมันดิบเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยน้ำมันดิบ Brent ปิด +0.05% ที่ระดับ 56.82 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิด +0.09% ที่ระดับ 53.72 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี ภาพรวมของปี 2016 ถือเป็นปีที่มีการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปี หลังจากกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่บรรลุข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดภาวะอุปทานโลกทึ่เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันมาในช่วง 2 ปี ส่งผลให้ภาพรวมน้ำมันดิบ Brent ปีที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นได้ 52% และน้ำมันดิบ WTI ภาพรวมปีที่แล้วปรับตัวขึ้น 45%

* สำหรับการซื้อขายวันแรกของปี 2017 ภาพรวมราคาน้ำมันดิบปรับตัวร่วงลงไปกว่า 2% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่ไปทำจุดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2002 ประกอบกับการที่เหล่าเทรดเดอร์ทำการเทขายทำกำไร จึงทำให้ราคาน้ำมันปรับลงจากระดับสูงสุดรอบ 18 เดือนในช่วงต้นตลาด

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปิด -2.4% ที่ระดับ 55.47 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบWTI ปิด -2.6% ที่ระดับ 52.33 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์

* ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากรอยเตอร์ส แสดงให้เห็นว่า ราคาน้ำมันดิบจะค่อยๆปรับตัวขึ้นแตะระดับ 60 เหรียญ/บาร์เรลในช่วงสิ้นปี 2017 แม้ว่าจะเป็นการปรับขึ้นอย่างจำกัดจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และแนวโน้มสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่จะปรับตัวขึ้น

ซึ่งผลสำรวจ บ่งชี้ว่า ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ Brent จะอยู่ที่ระดับ 57.43 เหรียญ/บาร์เรลในปีนี้ โดยช่วงไตรมาสแรกของปีราคาน้ำมันดิบ Brent จะอยู่ที่ระดับ 53.88 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ไตรมาสที่ 2 คาดจะอยู่ที่ระดับ 56.61 เหรียญ/บาร์เรล และในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 58.79 เหรียญ/บาร์เรล และ 59.68 เหรียญ/บาร์เรลตามลำดับ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com