• ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะปรับขึ้นแต่ก็เป็นการปรับขึ้นอย่างจำกัดก่อนจะทราบการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นประมาณ 0.1% ที่ระดับ 101.61 จุด หลังจากที่เมื่อคืนนี้ลงมาทำจุดต่ำสุดบริเวณ 101.3 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมสัปดาห์นี้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาแล้วประมาณ 0.8%
• ตลาดคาดข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯจะออกมาน่าผิดหวังในคืนนี้
หากข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯประจำเดือนธันวาคมในเดือนนี้ออกมาไม่ดี ก็น่าจะไม่สร้างความประหลาดใจและส่งผลกระทบต่อตลาดพันธบัตรเท่าไหร่นัก
ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ในตลาดพันธบัตร ประเมินว่า รายงานการจ้างงานคืนนี้จะอ่อนตัวลง หลังจากที่ ADP เผยรายงานการจ้างงานของภาคเอกชนออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ 153,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม หรือปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่คาดว่าจะออกมาที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง
• จีนเตรียมเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนที่ได้รับการกระตุ้นจากรัฐบาลและการเติบโตของภาคการก่อสร้าง จะส่งผลให้จีนมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีในปี 2017
โดยจีนจะเผยข้อมูลยอดผลผลิตในไตรมาสที่ 4/2016 และยอดรวมของทั้งปีในวันที่ 20 มกราคม 2017 นี้ ซึ่งมีการเติบโตใน 3 ไตรมาสแรกที่ 6.7% จากการคาดการณ์ของรัฐบาลที่ 6.5-7%
• ทางการญี่ปุ่นออกโรงปกป้องญี่ปุ่น โดยระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นต่างมีส่วนสำคัญในสหรัฐฯ หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯส่งสัญญาณคุกคามกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นหากมีการสร้างรถยนต์ในเม็กซิโก ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนายทรัมป์ ส่งผลให้หุ้นบริษัทโตโยต้าร่วงลงกว่า 3% ก่อนจะค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่หุ้นบริษัทฮอนด้ามอเตอร์และนิสสันมอเตอร์ ร่วงลงประมาณ 2% แม้ว่ารัฐบาลและนักวิเคราะห์จะปฏิเสธถึงผลกระทบจากการโจมตีดังกล่าวว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธรุกิจในวงจำกัดเท่านั้น
• ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงวันนี้ จากความกังวลว่าผู้ผลิตน้ำมันบางส่วนอาจไม่ทำตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตยังคงมีอยู่ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง 13 เซนต์ ที่ระดับ 56.76 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 11 เซนต์ ที่ระดับ 53.65 เหรียญ/บาร์เรล