• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 11 มกราคม 2560

    11 มกราคม 2560 | Economic News



 

• ค่าเงินดอลลาร์ขยับขึ้นเล็กน้อยแตะระดับ 102.04 จุด และมีการแกว่งตัวเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ อาทิค่าเงินยูโรและค่าเงินเยน ก่อนทราบถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางตลาดระยะสั้นได้ โดยค่าเงินยูโรทรงตัวที่ระดับ 1.0552 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 10 วันเมื่อคืนนี้บริเวณ 1.0628 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวแถวระดับ 115.765 เยน/ดอลลาร์

• เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยข้อมูลการเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ประจำเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาออกมาแย่กว่าคาดที่ระดับ 5.52 ล้านตำแหน่ง แต่ดีขึ้นจากเดิม 7 หมื่นตำแหน่ง เมื่อเทียบกับข้อมูลเดิมในเดือนก่อนหน้าที่มีการปรับทบทวนลงมาที่ระดับ 5.45 ล้านตำแหน่ง ซึ่งข้อมูลตลาดแรงงานดังกล่าวยังคงส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่ง

• ธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอาจได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ จึงช่วยลดแรงกดดันในกลุ่มผู้ส่งออกตลาดเกิดใหม่ และลดการชะลอตัวของบราซิลและรัสเซีย

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ 1.8% ในปี 2017 จากระดับ 1.6% ในปี 2016 ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และเศรษฐกิจกำลังพัฒนาคาดจะขยายตัวได้เร็วขึ้นสู่ระดับ 4.2% จากระดับ 3.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯปี 2017 คาดจะขยายตัวได้ 2.2% เมื่อเทียบกับระดับ 1.6% ในปีที่ผ่านมา แต่การขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่ความไม่แน่นอนว่าจะขยายตัวได้จากนโยบายการเงินหรือเหตุผลอื่นๆ แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ช่วยหนุนภาวะเศรษฐกิจโลกได้

อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการเงื่อนไขทางการเงินที่มีความเข้มงวดขึ้นอาจส่งผลลบต่อกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่บางแห่งได้ และก็ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯว่าจะสร้างแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกเพียงไร ทั้งในภาคการลงทุนจนกว่าจะมีความชัดเจนของนโยบายนายทรัมป์เพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลกคาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนจะยังชะลอตัวแตะระดับ 6.2% ในปี 2017 จากระดับ 6.7% ในปี 2016 แต่เศรษฐกิจในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างจีนและอินโดนีเซียคาดจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อินเดียคาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ระดับ 7.6% ในปี 2017 จากระดับ 7.0% ในปี 2016 ท่ามกลางการปฏิรูปภาคอุปทานในประเทศและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต

• น้ำมันดิบ WTI ปิด -2.2% ที่ระดับ 50.82 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับรายวันที่ปิดอ่อนตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิด -2.3% ที่ระดับ 53.68 เหรียญ/บาร์เรล โดยน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อจากแรงเทขาย ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตโลกนั้นจะส่งผลอย่างไร

ซึ่งถึงแม้สมาชิกโอเปก อย่างซาอุดิอาระเบีย จะมีการปรับลดกำลังการผลิตภายใต้ข้อตกลงเพื่อลดภาวะอุปทานล้นตลาด แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อื่นๆ อย่างเช่นอิรักจะดำเนินตามข้อตกลงเช่นไร



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com