นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวแถลงการณ์เกี่ยวกับแนวทางของประเทศอังกฤษหลังถอนตัวออกจากอียู โดยมีประเด็นสำคัญ ดังต่อไปนี้
· อังกฤษจะถอนตัวออกจาก Single Market
นายกฯอังกฤษต้องการที่จะเจรจาเปิดการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและประเทศสมาชิกของอียู ซึ่งจะทำให้อังกฤษมีอิสระอย่างเต็มที่ในการค้าขายและดำเนินการในตลาดอียู และประเทศสมาชิกของอียูก็จะได้รับอภิสิทธ์นั้นเช่นเดียวกันในตลาดอังกฤษ อย่างไรก็ดี นางเมย์ยังคงยืนกรานว่าจะไม่เข้าร่วม Single Market
· อังกฤษจะไม่แสวงหาการเป็นสมาชิก”ชั่วคราว”ในกลุ่มใดๆ
นางเทเรซ่า เมย์ ต้องการที่จะพัฒนาอังกฤษให้เป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมกับพันธมิตรในอียู ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอียู ดังนั้น อังกฤษจึงจำเป็นต้องถอนตัวออกมาจากอียูและจะมีการเจรจาอีกครั้งเพื่อหาข้อตกลงการค้าที่เหมาะสม
· อังกฤษจะต้องเป็นมหาอำนาจในโลก
การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางเมย์ ต้องการที่จะทำให้อังกฤษแข็งแกร่งขึ้น มีจุดยืนที่เท่าเทียมกันกับสหภาพยุโรป และเป็นพันธมิตรกับทุกๆประเทศในโลกไม่ใช่แค่ในยุโรป
· การลงทุนในภาคเศรษฐกิจ
นโยบายทางการเงินของอังกฤษต่อไปจะเป็นการลงทุนอย่างสมดุล โดยเน้นไปที่การลงทุนในโครงสร้างของเศรษฐกิจ เนื่องจากมันสามารถกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของอังกฤษและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนได้
· อังกฤษยังคงเปิดต้อนรับประเทศจากอียู
นายกฯอังกฤษ ระบุว่า อังกฤษยังคงเปิดต้อนรับประชาชนของประเทศในอียูต่อไป และหวังว่าพวกเขาจะทำเช่นเดียวกันกับประชาชนของอังกฤษ
· Brexit คือการควบคุมคนเข้า-ประเทศ
ทางอังกฤษจะมีการกำหนดนโยบายควบคุมการเดินทางเข้า-ออกระหว่างอียูและอังกฤษในเร็วๆนี้
· สิทธิประชาชนอียูและอังกฤษ
นางเมย์ ต้องการจะเจรจาด้านการกำหนดสิทธิให้ประชาชนของทั้งอียูและอังกฤษที่อาศัยอยู่ในประเทศพันธมิตรให้ได้โดยเร็วที่สุด
· Brexit ไม่ใช่การปิดประเทศ
อังกฤษเป็นชาติที่มีการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอดนับแต่อดีต โดยอังกฤษมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป แต่เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือ การเป็นประเทศระดับโลก นั่นคือสาเหตุว่าทำไมอังกฤษจึงมีความหลากหลายทางเชื้อชาติมาโดยตลอด
· อังกฤษไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งกับอียู
การตัดสินใจของอังกฤษในครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลในประเทศพันธมิตรมาโดยตลอด ว่าอาจชักนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงกับอียู แต่นางเทเรซ่า เมย์ ได้ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพราะจะไม่เกิดผลดีต่ออังกฤษแม้แต่น้อย ทั้งนี้ อังกฤษยังคงมีเจตนาที่ดีต่ออียู และหวังให้อียูประสบความสำเร็จเช่นกัน
ที่มา: Reuters