• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 มกราคม 2560

    20 มกราคม 2560 | Economic News




สรุปถ้อยแถลง นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ณ Stanford Institute for Economic Policy Research ในเช้าวันนี้

- เฟดจะไม่ทำการบังคับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการปล่อยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯร้อนแรงมากเกินไปจะสร้างความเสี่ยงและถือเป็นเรื่องไม่ฉลาด ดังนั้น เฟดจะใช้ความรอบคอบในการปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- อัตราการว่างงานใกล้ระดับเป้าหมายระยะยาวที่เฟดกำหนด

- แม้อุปสงค์จากภายนอกประเทศจะเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่เงินเฟ้อก็เข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ที่ 2%ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

- ค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนยังมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งในปี 2017 ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะสั้นนี้ แต่คาดว่าตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง

- กังวลต่อสัญญาณการขยายตัวที่ร้อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ไม่คาดว่าตลาดแรงงานจะมีการขยายตัวที่รวดเร็วร้อนแรง

· นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า การสาบานตนของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ที่ให้คำมั่นว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่น่าจะเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของเขา


• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้โดยส่วนใหญ่ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาด นำโดย ดัชนีผลสำรวจภาคการผลิตประจำเขตฟิลาเดเฟียในเดือนมกราคมขยายตัวได้ 23.6 จากเดิมที่ระดับ 21.5 ในเดือนก่อนหน้า โดยภาพรวมกิจกรรมภาคการผลิตยังคงมีสัญญาณที่ดีในช่วง 6 เดือน และยังคงปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาลดลงสู่ระดับ 234,000 ราย โดยมีผู้ขอรับสวัสดิการฯลดลง 15,000 รายเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และข้อมูลล่าสุดยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน โดยอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายมาอย่างยาวนานติดต่อกัน 99 สัปดาห์ หรือยาวนานที่สุดในรอบกว่า 47 ปี นับตั้งแต่ปี 1970

• ข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ พบว่า ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ประจำเดือนธันวาคมออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 1.23 ล้านยูนิต หรือปรับตัวขึ้น 130,000 ยูนิต หรือคิดเป็น 11.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ยอดการขออนุมัติก่อสร้างออกมาแย่ลงกว่าที่คาดการณ์เพียงเล็กน้อย โดยยังคงทรงตัวที่ระดับ 1.21 ล้านยูนิต

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ยอดการก่อสร้างบ้านใหม่ที่ปรับตัวขึ้นยังคงเป็นสัญญาณยืนยันถึงปริมาณความต้องการการเช่าที่อยู่อาศัย ขณะที่การปรับตัวลดลงของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงบ่งชี้ถึงภาวะความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาในทิศทางแข็งแกร่ง ประกอบกับนายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี ระบุว่า ยูโรโซนยังจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายการเงิน ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าอีซีบีน่าจะยังไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆในขณะนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลง และตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพียงเล็กน้อย

• ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นโดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 101.18 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้น 0.2% ที่ระดับ 115.02 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 114.82 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.4% ลงมาบริเวณ 1.06595 ดอลลาร์/ยูโร

• รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า การสนับสนุนโดยการเพิ่มค่าใช้จ่ายในภาครัฐบาลและการกู้ยืมของภาคธนาคาร จะส่งผลให้รายงานจีดีพีจีนยังทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.7% ในไตรมาสที่ 4/2016 จึงน่าจะสร้างความผันผวนอย่างมากต่อคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีจีนในปี 2017

• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 29 เซนต์ ที่ระดับ 51.30 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาบริเวณ 50.91 เหรียญ/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 34 เซนต์ ที่ระดับ 54.26 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ปิดปรับตัวขึ้น 2.8% ในวาระซื้อขายก่อนหน้า

• ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้รับอานิสงค์มาจากภาวะสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ชะลอการปรับขึ้น หลังจากที่ IEAกล่าวว่า ตลาดน้ำมันมีความตึงตัวขึ้นก่อนที่ข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะมีผลบังคับใช้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com