• ราคาทองคำยังคงทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ครึ่ง ท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดหุ้น จึงบดบังปัจจัยหนุนทองคำเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
• นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone กล่าวว่า การอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาณ์ถือเป็นปัจจัยหนุนทองคำทิศทางขาขึ้น แต่ก็ถูกบดบังจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดเหนือ 20,000 จุดได้เป็นครั้งแรก จึงคาดว่าราคาทองคำน่าจะกลับมาอยู่ใต้แรงกดดันอีกครั้งจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่หนุนตลาดหุ้นทั่วโลกอื่นๆด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังวิเคราะห์ว่า แรงเทขายอย่างหนักในกองทุนทองคำน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ โดยตลาดอาจกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและเม็กซิโกที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ที่อาจสร้างผลกระทบอย่างหนักที่อาจจะเลี่ยงไม่ได้ไปสู่กลุ่มผู้บริโภค
• แม้ตลาดหุ้นดาวโจนส์จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 20,000 จุดได้เป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และตลาดหุ้นเอเชียมีการปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ตลาดแลกเปลี่ยนค่าเงินกลับให้ความสนใจเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้ามากขึ้น ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมา 0.2% ที่ระดับ 99.84 จุด
• นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับลงทดสอบแนวรับ 1,197 เหรียญ และหากหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวก็มีโอกาสจะกลับลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1,182 เหรียญ
• นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ANZ กล่าวว่า ราคาทองคำยังยืนได้เหนือระดับแนวรับจากแรงซื้อสินทรัพย์ Safe-Haven ท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น ประกอบกับความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี ทั้งจากกรณี Brexit และนโยบายการค้าของนายทรัมป์ ถือเป็นปัจจัยที่ลดปริมาณความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
• ราคาทองคำสามารถทำจุดสูงสุดในรอบ 2 เดือนได้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยภาพรวมปรับตัวขึ้นได้แล้วประมาณ 7% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม เพราะได้รับแรงสนับสนุนหลักจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของนายทรัมป์
อย่างไรก็ดี ปริมาณความต้องการทองคำในอินเดียยังคงชะลอตัวท่ามกลางราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันปริมาณความต้องการทองคำจีนก็ลดน้อยลงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน
• ราคาซิลเวอร์ปรับตัวลดลง 0.4% ที่ระดับ 16.91 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมทรงตัวบริเวณ 978.1 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับตัวขึ้น 0.2% ที่ระดับ 730.5 เหรียญ หลังจากที่ร่วงลงกว่า 7% ในวาระการซื้อขายก่อนหน้าใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ที่ระดับ 727.5 เหรียญ
• ธนาคารโลกกล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับลดลงอีก 100 เหรียญภายในปีนี้ แม้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวใกล้แนวรับ 1,200 เหรียญ โดยคาดการณ์ว่า ราคาทองคำภายในปีนี้อาจมีการปรับลดลงถึง 8% หรือมีระดับราคาเฉลี่ยที่ 1,150 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ16.50 เหรียญ หรือปรับลดลงมา 4%
นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังได้ระบุถึงปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง ได้แก่ การเติบโตของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่อาจเกิดขึ้นเร็วว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะที่ปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ความตึงเครียดทางการเมือง ความต้องการทองคำที่มากขึ้นในจีนและอินเดีย ประกอบกับการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และอุปทานทองคำที่ลดลง