• ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น 0.5% ที่ระดับ 113.64 เยน/ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่กำลังรอคอยรายงานการประชุมเฟดประจำเดือนม.ค.และสัญญาณจากเฟดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 101.210 จุด
• นักวิเคราะห์จากดอยซ์แบงค์ชี้ อิตาลีอาจมีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเมืองอียู มากกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส หลังนายมัตเตโอ เรนซี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเดโมแครตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการเกิดการแบ่งแยกภายในพรรค
สัญญาณการแบ่งแยกดังกล่าวของพรรคเดโมแครต เป็นประเด็นที่ทางดอยซ์แบงค์กำลังจับตามองอยู่อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด ได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและเยอรมณีอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2014
• อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะจัดขึ้น 2 รอบภายในเดือนเมษายนและพฤษภาคม โดยนางมารีน เลอ แปน ผู้ลงสมัครเลือกตั้งที่กำลังเป็นประเด็นพูดถึงอยู่ในขณะนี้ จากการที่เธอได้ให้สัญญาว่าจะทำการพิจารณาการเป็นสมาชิกของอียูใหม่อีกครั้ง หากเธอชนะการเลือกตั้ง ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจเกิดกรณีคล้ายกับ Brexit ขึ้นอีกครั้ง แม้แบบสำรวจต่างๆจะแสดงให้เห็นว่าโอกาสชนะการเลือกตั้งของเธอยังคงมีจำกัดอยู่
• ผลสำรวจจาก Reuter พบว่ากระแสคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเริ่มถดถอยลง จึงเป็นสัญญาณที่ว่าบีโอเจอาจจะยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
• สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 จากข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์ คาดว่าการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจะสามารถช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบได้จริง
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้น 27 เซนต์ ที่ระดับ 53.67 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลดลง2 เซนต์ ที่ระดับ 56.16 เหรียญ/บาร์เรล