MTS Help Center

• เช้านี้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ซึ่งภาพรวมค่าเงินดอลลาร์สัปดาห์นี้มีการปรับอ่อนค่าลงมาหลังจากที่รายงานประชุมเฟดสร้างความผิดหวังต่อทิศทางขาขึ้นของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้อยู่ที่ระดับ 101.05 จุด

เช้านี้ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 112.73 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์บริเวณ 112.55 เยน/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.0584 ดอลลาร์/ยูโรในเช้านี้ หลังจากที่วันพุธที่ผ่านมาทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ 11 มกราคมที่ผ่านมาที่ระดับ 1.0494 ดอลลาร์/ยูโร

• สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวพึงพอใจต่อขอบเขตการหนุนภาคการส่งออกด้วยการปรับโครงสร้างภาษีที่ทางพรรครีพับลิกันจะยื่นเสนอต่อสภาคองเกรส แต่ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังกล่าวในเชิงไม่พึงพอใจกับบริษัทต่างๆของสหรัฐฯที่มีการจัดตั้งบริษัทนอกประเทศ อย่างในเม็กซิโก จึงถือเป็นการส่งสัญญาณที่มีความผสมผสานกันเกี่ยวกับวัตถุประสงค์หลักของการดำเนินนโยบายของพรรครีพับลิกัน ที่จะทำการยกเครื่องนโยบายภาษีเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งนายทรัมป์เชื่อมั่นว่าการดำเนินการของเขาจะทำให้มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ

• ขณะที่รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า นายทรัมป์ มีการกล่าวกับผู้บริหารของบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับแผนการนำตำแหน่งงานกว่าล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐฯ แต่ก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับวิธีการดึงงานกลับสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตหลังจากที่ปรับตัวลดลงยาวนานหลายสิบปี

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายสัปดาห์ออกมาแย่ลงกว่าที่คาดเล็กน้อย โดยมีคนขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 244,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลล่าสุดก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 103 และยาวนานที่สุดกว่า 43 ปีครึ่ง

• ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 75 เซนต์ ที่ระดับ 54.34 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 54.94 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับตัวขึ้น 81 เซนต์ ที่ระดับ 56.65 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 57.26 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นแต่ก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังจากที่ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐฯยังอยู่ในเกณฑ์ระดับสูงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 จึงบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบระดับสูงดังกล่าวอาจบดบังการเคลื่อนไหวของบรรดากลุ่มโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต