• Bank of America เชื่อว่าการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่ได้รับแรงหนุนจากการเลือกตั้งได้จางหายไปแล้ว อันจะเห็นได้จากผลการสำรวจการถือครองสถานะของนักลงทุน, ความเชื่อมั่นของกองทุนเฮดจ์ฟันด์, ลูกค้าทั่วไป รวมถึงข้อมูลในตลาดอนุพันธ์ ตามภาพประกอบด้านล่าง
• นายโรเบิร์ต เคพแลนด์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวว่า เนื่องจากการเติบโตของตลาดแรงงานสหรัฐฯเริ่มใกล้ถึงจุดอิ่มตัว ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่เข้าใกล้เป้าหมาย 2% เฟดจึงมีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ก็จะดำเนินการตัดลดค่าใช้จ่ายลงบางส่วน
อย่างไรก็ดี นายโรเบิร์ต ก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกตัวอย่างเช่น นโยบายปฏิรูปภาษี หรือการประกันสุขภาพ ว่าอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ หากยังคงไร้ซึ่งความชัดเจนของนโยบายดังกล่าว
• จากผลสำรวจ Forsa พบว่า ในการเลือกตั้งของเยอรมนีที่จะมีขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาวเยอรมนีอยู่ที่ 34% ขณะที่คู่แข่งจากพรรคประชาธิปไตยเชิงสังคม (SPD)ได้รับเสียงสนับสนุนอยู่ที่ 31%
• ยอดส่งออกประจำเดือนกุมภาพันธ์ของญี่ปุ่นขยายตัวเกินคาดสู่ระดับ 11.3% ในรอบกว่า 2 ปี โดยปรับตัวขึ้นหลังจากที่ชะลอตัวลงช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่การค้ากับทางสหรัฐฯมีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นจากนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ยอดส่งออกกับทางสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.4% ในเดือนก.พ. โดยได้รับอานิสงค์มาจากการขนส่งรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยนต์
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในวันนี้ จากความกังวลที่ว่าข้อมูลปริมานน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะบดบังความพยายามของกลุ่มโอเปกที่ขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปต่อจากเดือนมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด -0.59% ที่ระดับ 50.66 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด –0.6% ที่ระดับ47.96 เหรียญ/บาร์เรล