• ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้น 150.52 จุด หรือคิดเป็น +0.73% ที่ระดับ 20,701.5 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.73%เช่นกัน และดัชนี Nasdaq ปิด +0.6%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้น เพราะได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและพลังงานที่พุ่งขึ้นตอบรับกับข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในรอบกว่า 16 ปี ท่ามกลางการขยายตัวที่สดใสของภาคแรงงาน จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
• เช้านี้ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิด +0.2% และกลับมาเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือน ขณะที่เช้านี้ดัชนี Nikkei 225 เปิด +0.1% หลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวได้มากกว่า 1%
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์และสินค้าโภคภัณฑ์อย่างราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบรรดากลุ่มนักลงทุนคลายความผิดหวังจากการที่นายทรัมป์ล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายสุขภาพ แต่กลับมาให้ความสนใจต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันก็จับตาการเจรจาขั้นตอนการเริ่มต้นออกจาก Brexit ระหว่างอังกฤษและอียู
• นักบริหารเงิน ประเมินว่า ในวันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 – 34.60 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทรอดูว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบต่อไปหรือไม่ของเฟด ขณะที่วันนี้คาดตลาดให้ความสนใจกับการประชุม กนง. เป็นสำคัญ
• นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองว่า การประชุมกนง. ในวันนี้ จะยังคงดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% และความเสี่ยงจากเงินบาทที่แข็งค่าน่าจะถูกหยิบยกไปเป็นประเด็นหารือ แต่เชื่อว่า จะยังไม่ส่งผลให้ ธปท. ทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ เพราะคงต้องเก็บ Policy space ไว้ใช้ยามฉุกเฉิน