• ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.19% ที่ระดับ 20,689.24 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.06% และดัชนี Nasdaq ปิด +0.07%โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยการประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ ประกอบกับความกังวลที่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะทำได้จริงตามที่ได้ให้สัญญาไว้ โดยเฉพาะในเรื่องการปฎิรูปภาษีได้หรือไม่
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาไปยังการพบกันระหว่าง นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในช่วงปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า หากผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาดี ก็อาจส่งผลให้ดัชนีในตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้โดยปราศจากข่าวการปรับลดภาษี
• ตลาดหุ้นเอเชียเริ่มต้นวันทำการด้วยท่าทีระมัดระวังการซื้อขาย โดยจับตาไปยังการพบกันระหว่างการพบกันของประธานาธิบดีสหรัฐฯและจีน ขณะที่การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบได้กลับมาช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
• ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดทรงตัว ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.48%
• CNBC รายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียยังมีความกังวลจากกรณีล่าสุดที่ทางเกาหลีเหนือทำการยิงทดสอบขีปนาวุธไปยังบริเวณทะเลในญี่ปุ่น
• นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20-34.45 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยคืนนี้จะมีการประกาศรายงานการประชุมเฟดในเดือนมีนาคมที่ผ่าน ขณะที่นักลงทุนยังรอคอยการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในช่วงปลายสัปดาห์ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ