• ในคืนวันพุธดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.2% ที่ระดับ 20,648.15 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.31% และดัชนี Nasdaq ปิด -0.58% โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลงหลังจากที่ช่วงท้ายตลาดมีสัญญาณจากเฟดที่อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงการลงทุนในพันธบัตรปีนี้ จึงลดกระแสความร้อนแรงจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงมีความกังวลกับความสามารถของนายทรัมป์ว่าจะทำตามที่ให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงหรือไม่
นักวิเคราะห์บางส่วน มีมุมมองว่า นักลงทุนกังวลว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่จากการที่เฟดดำเนินการปรับลดยอดงบดุลให้เข้าสู่ภาวะปกติเพราะอาจส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือการเพิ่มจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
• ขณะที่เมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิด +0.07% ที่ระดับ 20,662.95 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิด +0.25% และดัชนีS&P500 ปิด +0.19% ขณะที่เมื่อคืนนี้ทำจุดสูงสุดบริเวณ 2,364.16 จุด
ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปิดปรับตัวสูงขึ้น แต่นักลงทุนก็ยังคงกังวลต่อการพบกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและจีน โดยคาดว่าจะทราบผลสรุปการประชุมในวันนี้ ซึ่งนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่อาจนำมาหารือหรือเป็นข้อต่อรองเกี่ยวกับการจัดการกับเกาหลีเหนือ
• ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานกันในเช้านี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯและค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดที่ยังคงรอคอยผลการหารือกันระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและจีน รวมทั้งข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯคืนนี้
• โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดทรงตัว แต่ภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับตัวขึ้นได้แล้วประมาณ 0.2% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเช้านี้เปิด +0.8% หลังจากที่เมื่อวานนี้ลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน สำหรับภาพรวมสัปดาห์นี้ปรับตัวลงประมาณ0.85%