• คืนวันที่ 12 ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.29% ที่ระดับ 20,591.86 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.38% และดัชนีNasdaq ปิด -0.52% โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงจากการที่นายทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับความตึงเครียดทางการเมืองที่ยังคงดำเนินอยู่ ได้เข้ากดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน พร้อมกล่าวว่าแนวทางดำเนินการภาคแรงงานของประธานเฟดเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ค่าเงินดอลลาร์ก็ยังคงอยู่ในทิศทางแข็งค่าเกินไปเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในโลก
• ขณะที่คืนวันที่ 13 หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นปานกลาง ก็ถูกเทขายลงมาอย่างหนัก หลังมีข่าวว่าสหรัฐฯทำการทิ้งระเบิด MOAB (Mother of All Bombs) ไปยังเครือข่ายอุโมงค์ของกลุ่ม ISIS ในอัฟกานิสถาน จึงยิ่งจุดประกายความตึงเครียดทางการเมืองและกดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ขณะที่ดัชนีมาตรวัดความผันผวนหรือ VIX ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 16.22 จุด หรือคิดเป็น 1.2% ขณะที่ภาพรวมรายสัปดาห์ตลาดมีความกังวลเพิ่มสูงขึ้นถึง 24%
โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวลง 138.6 จุด หรือคิดเป็น -0.7% ที่ระดับ 20,453.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.7% ที่ระดับ 2,328.95 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.5% ที่ระดับ 5,805.15 จุด
• รายงานจาก CNBC ระบุว่า ดัชนีอนุพันธ์ในตลาดเอเชียเปิดปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงจับตาไปยังความตึงเครียดบริเวณคาบสมุทรเกาหลีเหนือและข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่จะประกาศในช่วงเช้านี้
โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.42% ที่ระดับ 18,257.82 จุด ขณะที่ดัชนี HSI เปิด -0.21% ที่ระดับ 24,261.66 จุด
• ตลาดหุ้นฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ปิดทำการในวันนี้เนื่องในเทศกาล Easter Monday
• นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00 -34.50 บาท/ดอลลาร์ โดยจุดสนใจของตลาดอยู่ที่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทั้งระหว่างสหรัฐ-ซีเรีย และประเด็นในคาบสมุทรเกาหลี ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน และยูโรโซน