นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์และเหมืองทองจาก Panmure Gordon & Co กล่าวว่า แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอยู่ในทิศทางแข็งค่า แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ช่วยหนุนให้ราคาทองคำนั้นปรับตัวสูงขึ้น โดยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Brexit, การเลือกตั้งในฝรั่งเศส หรือระดับเพดานหนี้ของจีน รวมไปถึงความกังวลจากการปรับตัวขึ้นอย่างผันผวนของตลาดหุ้น (ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษทั้ง 10 กลุ่ม กำลังปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกและแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี)
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการเปิดสถานะ ( มีการถือครองสถานะ Short Position มากที่สุดนับตั้งแต่ที่เฟดตัดสินใจทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด รวมทั้งถ้อยแถลงเกี่ยวกับการปรับลดงบดุลของเฟด), ธนาคารกลาง (ที่มีการเข้าซื้อทองคำเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012) ประกอบกับประเด็นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ โดยทั้งหมดนี้อาจเป็นปัจจัยที่เข้ามาเกื้อหนุนราคาทองคำได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพระยะยาวของทองคำจะเป็นขาลงนับตั้งแต่ปี 2011 แต่ก็อาจจะสิ้นสุดลงจากภาวะความเสี่ยงต่างๆที่จะเข้ากระทบกับการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้นได้
Panmure Gordon ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,300 เหรียญ จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 1,225 เหรียญ ขณะที่ในปี 2018 ปรับเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 1,350 เหรียญ จากระดับ 1,200 เหรียญ
ท้ายที่สุดนี้ การลงทุนในทองคำดูจะได้รับอานิสงค์จากความเสี่ยงที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่าง Brexit และการปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อจาก “Trumponomics”
ที่มา: CNBC