MTS Help Center

ทีมคณะบริหารของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศการปรับลดภาษีครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ โดยการปรับลดภาษีธุรกิจและนิติบุคคล ตามที่ได้ในสัญญาไว้ในช่วงเลือกตั้ง

ภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ระดับ 15%

ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากระดับปัจจุบันที่ 35% สู่ระดับ 15% ซึ่งการดำเนินการนี้อาจเป็นการช่วย “ปลดล็อก” เศรษฐกิจ และส่งเสริมภาคธุรกิจครั้งใหญ่ รวมไปถึงการจ้างงาน และการนำเงินจำนวนกว่าล้านล้านเหรียญฯ จากกลุ่มบริษัทข้ามชาติ

รายละเอียดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีการปรับบษนภาษีเงินได้จาก 7 อัตรา เหลือเพียง 3 อัตรา ที่ระดับ 10%, 25% และ 35% ตามลำดับ และงดเว้นภาษีครอบครัวที่มีเด็กเล็กหรือครอบครัวที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาตัว

การเก็บภาษีเขตแดน (Territorial Tax)

นอกจาก จะมีการคงภาษีธุรกิจที่ระดับ 15% นายทรัมป์ยังเสนอระบบการเรียกเก็บภาษีเขตแดนเพื่อให้บริษัทของสหรัฐฯมีพื้นที่ในการแข่งขัน โดยกำหนดในระดับ 1 เท่าของภาษีที่คิดจากรายได้ในต่างแดนจำนวน 1 ล้านล้านเหรียญฯ และมีการยกเว้นภาษีสำหรับกรณีพิเศษอื่นๆด้วย

คู่สมรสไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนแรกจำนวน 24,000 เหรียญ

คู่สมรสจะไม่ต้องเสียภาษีใดๆเป็นสำหรับคู่ที่มีรายได้โดยรวมร่วมกันครั้งแรกไม่เกินจำนวน 24,000 เหรียญ หรือพูดง่ายๆ คือ มีอัตราภาษี 0% สำหรับเงินได้ร่วมกันครั้งแรกในจำนวนดังกล่าว

ขณะที่ นายสตีเวน มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ภายใต้แผนการดำเนินงานของนายทรัมป์ เราจะได้รับการปรับลดภาษีครั้งใหญ่สำหรับภาคธุรกิจและการปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่โดยทั่วไป ซึ่งนายทรัมป์ ได้ระบุถึงความตั้งใจในช่วงหาเสียงไว้ว่าจะทำการปรับลดภาษีธุรกิจลงสู่ระดับ 15% และจะจัดการกับระบบภาษีอาณาเขต มีการปฏิรูปภาษีธุรกิจข้ามชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้มีเงินจำนวนล้านล้านเหรียญฯ กลับเข้าสู่ภาคการลงทุนในสหรัฐฯ เงินทุนในส่วนของการจัดซื้อ แรวมทั้งการสร้างแรงงาน

ไม่มีนโยบายจัดการภาษีสินค้านำเข้า

แผนภาษีของนายทรัมป์จะไม่รวมถึงการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้า ที่อยู่ในข้อเสนอก่อนหน้านี้จากบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นวิธีชดเชยรายได้ที่จะสูญเสียไปจากการปรับลดภาษี

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ ระบุว่า นายทรัมป์อาจจำกัดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้สูงสุดที่ระดับ 33% และมีการยกเลิกภาษีอสังหาริมทรัพย์และภาษีทางเลือกในระดับต่ำ รวมทั้งอาจปรับลดภาษีสำหรับกลุ่มชนชั้นกลาง

ที่มา: Business Standard